
สมาพันธ์ฟุตบอล
สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (Asian Football Confederation) หรือ AFC คือ องค์กรที่ควบคุมการแข่งขันฟุตบอลในทวีปเอเชีย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2497 ที่มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ แต่ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ย้ายมาอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียแล้ว เอเอฟซี มีส่วนในการจัดการเกี่ยวกับเรื่องของเงินรางวัล กฎระเบียบ รวมไปถึงลิขสิทธิ์ต่างๆ ในการถ่ายทอดสดฟุตบอล เอเอฟซี เป็น 1 ใน 6 สมาคมที่จัดการแข่งขันฟุตบอลทั่วโลกของฟีฟ่า
กฎการคัดเลือกของโซนเอเชีย (เงื่อนไข)
รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เป็นการแข่งขันฟุตบอลของแต่ละประเทศในโซนเอเชียทั้งหมดเพื่อคัดเลือกทีมฟุตบอลที่เข้ารอบไปแข่งขันในฟุตบอลโลก 2022 โดยรอบสุดท้ายแข่งขันที่ประเทสกาตาร์ โซนเอเชียจะได้รับโควตาทั้งหมด 4 ทีม กับอีก 1 ทีมที่มีสิทธิ์ไปแข่งรอบเพย์ออฟกับทีมโซนอื่นๆ ต่อไป
รอบแรก : มีทั้งหมด 46 ประเทศ แบ่งออก 12 ทีม (ทีมอันดับ 35-46) จับคู่แข่งขันแบบเหย้า – เยือน 2 นัด หาทีมชนะ 6 ทีมผ่านเข้าสู่รอบต่อไป
รอบสอง : มี 40 ทีม (ทีมอันดับ 1 -34 และ 6 ทีมที่ผ่านรอบ) มาแบ่งเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 5 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมด เหย้า – เยือน คัดเลือกผู้ชนะของแต่ละกลุ่ม 8 ทีม รวมกับทีมที่อันดับ 2 ที่มีผลงานดีที่สุดในอีก 4 ทีมผ่านเข้ารอบ 3 ต่อไป
รอบสาม : จากการแข่งขันรอบสอง จะมี 12 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกมาถึงรอบนี้ 12 ทีมจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมดเหย้า – เยือน ทีมอันดับ 1 และ 2 ของกลุ่มจะผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ทันที ส่วนอันดับที่ 3 ของแต่ละกลุ่มจะไปเล่นในรอบที่ 4 ทั้ง 12 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจะได้เข้าแข่งขันรอบเพลย์ออฟโดยอัตโนมัติ ส่วนทีมที่เหลือก็จะแข่งขันกันไปเรื่อยๆ รวมแล้วจะได้ 24 ทีม (การแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกจะเป็นการหาทีมที่ผ่านเข้ารอบแข่งขันเอเชี่ยนคัพปี 2023 ไปในตัวด้วย)

รายละเอียดการผ่านเข้ารอบของแต่ละประเทศโซนเอเชีย
ประเทศซีเรีย : จัดอยู่ในอันดับที่ 10 จาก 46 ประเทศ ของโซนเอเชียซึ่งได้รับสิทธิ์ผ่านคัดเลือกรอบแรกไปเล่นในรอบสอง (อันดับที่ 1 -34 ) ตามกฎของสมาพันธ์ ซึ่งแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 ทีม ทีมประเทศซีเรียได้อยู่ที่กลุ่ม เอ ประกอบไปด้วย จีน ฟิลิปปินส์ มัลดีฟส์ และกวม ซึ่งสถิติคือ ชนะ 7 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง เสมอ 0 ได้คะแนนรวมสูงที่สุดในกลุ่ม เอ 21+15 คะแนน ผ่านเข้ารอบที่ 3 และไปชิงเอเชียคัพในปี 2023
ประเทศญี่ปุ่น : จัดอยู่ในอันดับที่ 2 จาก 46 ประเทศ ของโซนเอเชียซึ่งได้รับสิทธิ์ผ่านคัดเลือกรอบแรกไปเล่นในรอบสอง (อันดับที่ 1 -34 ) ตามกฎของสมาพันธ์ ซึ่งแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 ทีม ประเทศญี่ปุ่นจัดอยู่ในกลุ่ม เอฟ ประกอบไปด้วย ทาจิกิสถาน ,คีรกีซสถาน ,มองโกเลีย และพม่า ซึ่งสถิติคือ ชนะ 8 ครั้ง เสมอ 0 แพ้ 0 ได้คะแนนรวมสูงที่สุดในกลุ่ม เอฟ 24 +44 คะแนน ผ่านเข้ารอบที่ 3 และไปชิงเอเชียคัพในปี 2023
ประเทศอิหร่าน : จัดอยู่ในอันดับที่ 1 จาก 46 ประเทศของโซนเอเชียซึ่งได้รับสิทธิ์ผ่านคัดเลือกรอบแรกไปเล่นในรอบสอง (อันดับที่ 1 -34 ) ตามกฎของสมาพันธ์ ซึ่งแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 ทีม ประเทศอิหร่านจัดอยู่ในกลุ่ม ซี ประกอบไปด้วย อิรัก ,บาห์เรน ,ฮ่องกง และกัมพูชา ซึ่งสถิติคือ ชนะ 6 ครั้ง เสมอ 0 แพ้ 2 ได้คะแนนรวมสูงที่สุดในกลุ่ม ซี 18+30 คะแนน ผ่านเข้ารอบที่ 3 และไปชิงเอเชียคัพในปี 2023
ประเทศออสเตรเลีย : จัดอยู่ในอันดับที่ 4 จาก 46 ประเทศ ประเทศของโซนเอเชียซึ่งได้รับสิทธิ์ผ่านคัดเลือกรอบแรกไปเล่นในรอบสอง (อันดับที่ 1 -34 ) ตามกฎของสมาพันธ์ ซึ่งแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 ทีม ประเทศอิหร่านจัดอยู่ในกลุ่ม บี ประกอบไปด้วย คูเวต ,จอร์แดน ,เนปาล และจีนไทเป ซึ่งสถิติคือ ชนะ 8 ครั้ง เสมอ 0 แพ้ 0 ได้คะแนนรวมสูงที่สุดในกลุ่ม บี 24+26 คะแนน ผ่านเข้ารอบที่ 3 และไปชิงเอเชียคัพในปี 2023
ประเทศเกาหลีใต้ : จัดอยู่ในอันดับที่ 3 จาก 46 ประเทศของโซนเอเชียซึ่งได้รับสิทธิ์ผ่านคัดเลือกรอบแรกไปเล่นในรอบสอง (อันดับที่ 1 -34 ) ตามกฎของสมาพันธ์ ซึ่งแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 ทีม ประเทศเกาหลีใต้จัดอยู่ในกลุ่ม เอช ประกอบไปด้วย เลบานอน ,เติร์กเมนิสสถาน ,ศรีลังกา และเกาหลีเหนือ ซึ่งสถิติคือ ชนะ 5 ครั้ง เสมอ 1 แพ้ 0 ได้คะแนนรวมสูงที่สุดในกลุ่ม เอช 16+21 คะแนน ผ่านเข้ารอบที่ 3 และไปชิงเอเชียคัพในปี 2023
ประเทศซาอุดีอาระเบีย : จัดอยู่ในอันดับที่ 7 จาก 46 ประเทศของโซนเอเชียซึ่งได้รับสิทธิ์ผ่านคัดเลือกรอบแรกไปเล่นในรอบสอง (อันดับที่ 1 -34 ) ตามกฎของสมาพันธ์ ซึ่งแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 ทีม ประเทศซาอุดีอาระเบีย อยู่ในกลุ่ม ดี ประกอบไปด้วย อุชเบกิสถาน ,ปาเลสไตน์ ,สิงคโปร์ และเยเมน ซึ่งสถิติคือ ชนะ 6 ครั้ง เสมอ 2 แพ้ 0 ได้คะแนนรวมสูงที่สุดในกลุ่ม ดี 20+18 คะแนน ผ่านเข้ารอบที่ 3 และไปชิงเอเชียคัพในปี 2023
ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ : จัดอยู่ในอันดับที่ 6 จาก 46 ประเทศของโซนเอเชียซึ่งได้รับสิทธิ์ผ่านคัดเลือกรอบแรกไปเล่นในรอบสอง (อันดับที่ 1 -34 ) ตามกฎของสมาพันธ์ ซึ่งแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 ทีม ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อยู่ในกลุ่ม จี ประกอบไปด้วย เวียดนาม,มาเลเซีย ,ไทย และอินโดนีเซีย ซึ่งสถิติคือ ชนะ 6 ครั้ง เสมอ 0 แพ้ 2 ได้คะแนนรวมสูงที่สุดในกลุ่ม จี 18+16 คะแนน ผ่านเข้ารอบที่ 3 และไปชิงเอเชียคัพในปี 2023
ประเทศอิรัก : จัดอยู่ในอันดับที่ 9 จาก 46 ประเทศของโซนเอเชียซึ่งได้รับสิทธิ์ผ่านคัดเลือกรอบแรกไปเล่นในรอบสอง (อันดับที่ 1 -34 ) ตามกฎของสมาพันธ์ ซึ่งแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 ทีม ประเทศอิรัก อยู่ในกลุ่ม ซี ประกอบไปด้วย อิหร่าน ,บาห์เรน ,ฮ่องกง และกัมพูชา ซึ่งสถิติคือ ชนะ 5 ครั้ง เสมอ 2 แพ้ 1 ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 2 ที่มีผลงานดีที่สุดในกลุ่มซี 17+10 คะแนน ตามกฎของสมาพันธ์ ผ่านเข้ารอบที่ 3 และไปชิงเอเชียคัพในปี 2023
ประเทศจีน : จัดอยู่ในอันดับที่ 8 จาก 46 ประเทศของโซนเอเชียซึ่งได้รับสิทธิ์ผ่านคัดเลือกรอบแรกไปเล่นในรอบสอง (อันดับที่ 1 -34 ) ตามกฎของสมาพันธ์ ซึ่งแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 ทีม ประเทศจีน อยู่ในกลุ่ม เอ ประกอบไปด้วย ซีเรีย ,ฟิลิปปินส์ ,มัลดีฟส์ และกวม ซึ่งสถิติคือ ชนะ 6 ครั้ง เสมอ 1 แพ้ 1 ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 2 ที่มีผลงานดีที่สุดในกลุ่มเอ 19+27 คะแนน ตามกฎของสมาพันธ์ ผ่านเข้ารอบที่ 3 (ประเทศจีนได้ผ่านเข้าสู่เอเชียคัพในฐานะชาติเจ้าภาพอยู่แล้ว)
ประเทศเวียดนาม : จัดอยู่ในอันดับที่ 16 จาก 46 ประเทศของโซนเอเชียซึ่งได้รับสิทธิ์ผ่านคัดเลือกรอบแรกไปเล่นในรอบสอง (อันดับที่ 1 -34 ) ตามกฎของสมาพันธ์ ซึ่งแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 ทีม ประเทศเวียดนาม อยู่ในกลุ่ม จี ประกอบไปด้วย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ,มาเลเซีย ,ไทย และอินโดนีเซีย ซึ่งสถิติคือ ชนะ 5 ครั้ง เสมอ 2 แพ้ 1 ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 2 ที่มีผลงานดีที่สุดในกลุ่มซี 17+8 คะแนน ตามกฎของสมาพันธ์ ผ่านเข้ารอบที่ 3 และไปชิงเอเชียคัพในปี 2023
ประเทศเลบานอน : จัดอยู่ในอันดับที่ 12 จาก 46 ประเทศของโซนเอเชียซึ่งได้รับสิทธิ์ผ่านคัดเลือกรอบแรกไปเล่นในรอบสอง (อันดับที่ 1 -34 ) ตามกฎของสมาพันธ์ ซึ่งแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 ทีม ประเทศเลบานอน อยู่ในกลุ่ม เอช ประกอบไปด้วย เกาหลีใต้, เติร์กเมนิสถาน ,ศรีลังกา และเกาหลีเหนือ ซึ่งสถิติคือ ชนะ 3 ครั้ง เสมอ 1 แพ้ 2 ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 2 ที่มีผลงานดีที่สุดในกลุ่มซี 10+3 คะแนน ตามกฎของสมาพันธ์ ผ่านเข้ารอบที่ 3 และไปชิงเอเชียคัพ รอบคัดเลือก รอบที่ 3 ต่อไป
ประเทศโอมาน : จัดอยู่ในอันดับที่ 13 จาก 46 ประเทศของโซนเอเชียซึ่งได้รับสิทธิ์ผ่านคัดเลือกรอบแรกไปเล่นในรอบสอง (อันดับที่ 1 -34 ) ตามกฎของสมาพันธ์ ซึ่งแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 ทีม ประเทศโอมาน อยู่ในกลุ่ม อี ประกอบไปด้วย กาตาร์ , อินเดีย ,อัฟกานิสถาน ,และบังกลาเทศ ซึ่งสถิติคือ ชนะ 6 ครั้ง เสมอ 0 แพ้ 2 ได้คะแนนรวมเป็นอันดับที่ 2 ที่มีผลงานดีที่สุดในกลุ่มอี 18+10 คะแนน ตามกฎของสมาพันธ์ ผ่านเข้ารอบที่ 3 และไปชิงเอเชียคัพในปี 2023

สรุปประเทศที่เข้ารอบและทีมที่คิดว่าจะได้เข้ารอบสุดท้ายไปเล่นที่กาตาร์
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ในรอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบสองก็ได้จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยทีมที่ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของเอเชียจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มๆ ละ 6 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมด ทีมอันดับที่ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้ารอบไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 ซึ่ง 12 ทีมที่ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ ได้แก่ ซีเรีย จีน ออสเตรเลีย อิหร่าน อิรัก ซาอุดีอาระเบีย โอมาน ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวียดนาม เกาหลีใต้ เลบานอน ส่วนกาตาร์ ชาติเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 ผ่านเข้ารอบไปแล้วด้วยการเป็นผู้นำจ่าฝูงของกลุ่มอี และนั่นทำให้โควต้าทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สุดต้องเพิ่มเป็น 5 ทีม และที่ประเทศลงแข่งขันในรอบนี้ก็เพื่อสิทธิ์ในการไปเล่นในเอเชี่ยนคัพ 2023 รอบสุดท้ายที่ประเทศจีนนั่นเอง ทีมไหนในทวีปเอเชียของเราที่จะได้ไปสัมผัสรอบสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2022 กันบ้าง วันนี้เราลองมาวิเคราะห์กันดูเลย
หากพูดถึงชาติเอเชียที่มีโอกาสได้สัมผัสเวทีฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากที่สุดอันดับแรกแอดมินต้องขอยกให้กับขุนพลโสมขาว แดนเกาหลีใต้หนึ่งในอำนาจของทวีปหลังนำทัพแซงเลบานอนขึ้นเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม H หากย้อนเมื่อปี 1954 แดนโสมอย่างเกาหลีใต้ได้ผ่านเข้ารอบในเวิลด์คัพรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกได้สำเร็จหลังจากนั้นอีก 32 ปีต่อมา นักเตะระดับตำนานของเอเชียอย่างชาบุมกุนก็สามารถพาทีมไปถึงเวิลด์คัพได้สำเร็จอีกครั้งในปี 1986 ที่เม็กซิโก ยิ่งไปกว่านั้นเกาหลีใต้ก็สามารถทำสถิติคว้าตั๋วในรายการนี้ได้อีกติดต่อกันอีกถึง 8 สมัย โดยไม่พลาดเลย ซึ่งนั่นทำให้ทีมเกาหลีใต้เป็นทีมที่ผ่านเข้ารอบไปบอลโลกติดต่อกันมากที่สุดติดเป็นอันดับที่ 6 ของโลก และครั้งนี้แอดมินเชื่อว่าเกาหลีใต้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทีมที่สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปบอลโลกอีกปีแน่นอน ส่วนอันดับที่สองของเอเชียแอดมินขอยกให้กับทีมญี่ปุ่นคู่รักคู่แค้นของเกาหลีใต้ เพราะตามสถิติแล้วญี่ปุ่นได้มีโอกาสลงเล่นในเวทีระดับโลกนี้มาแล้วถึง 5 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 1998-2015 ญี่ปุ่นกลับมาลงสนามอีกครั้งในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกรอบสองก่อนไล่เอาชนะมองโกเลียด้วยสกอร์ที่ไม่ธรรมดา 14-0 เก็บชัยชนะ 5 นัดรวดขึ้นเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม F ในทันที ชัยชนะในครั้งนี้แอดมินมองว่าพวกเขาได้สร้างสถิติใหม่ที่เอาชนะคู่แข่งด้วยสกอร์ที่มากที่สุดแบบนี้เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์และเป็นครั้งแรกในรอบ 54 ปีที่แล้วที่พวกเขานั้นสามารถถล่มฟิลิปปินส์แบบขาดลอย 15-0 ในการคัดเลือกโอลิมปิก เรียกได้ว่าฟอร์มการเล่นของพวกเขาสามารถต่อกรกับทีมใหญ่ๆ ได้สบายๆ และมีโอกาสผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปฟุตบอลโลกได้แน่นอน ส่วนอันดับที่สามตกเป็นของอิหร่านและซาอุดิอาระเบียที่เคยครองสถิติร่วมกันมาแล้วถึง 4 ครั้งโดยที่อิหร่านนั้นครองสถิติมาด้วยปี 1978 ,1998, 2006 ,2004 ส่วนซาอุดิอาระเบียคือ 1994 ,1998, 2002 และ2006 ถือเป็นสถิติที่น่าสนใจที่ครั้งนี้พวกเขาอาจจะมีโอกาสได้เข้ารอบสุดท้ายก็ได้ ทั้งนี้การแข่งขันของรอบ 12 ทีม จะทำการแข่งขันขึ้นในช่วงของเดือนกันยายน 2564 และสิ้นสุดกันที่เดือน 2565 รูปแบบการแข่งขันยังคงต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้งจากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ใครจะมีโอกาสได้ไปสัมผัสเวทีฟุตบอลโลกในปี 2022 อย่าลืมติดตามชมและอัพเดตข่าวสารกันต่อไป