ประวัติความเป็นมา ฟุตบอลทีมชาติอิตาลี

ฟุตบอลทีมชาติอิตาลี (Nazionale italiana di calcio) เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย ฟีฟ่า เวิล์ดคัพ (FIFA World Cup) ปีค.ศ. 1934 1938 1982 2006 และเป็นแชมป์ ฟุตบอลยูโร (EURO Cup) อีก 2 สมัย ปีค.ศ.1968 2020 ได้เหรียญทองจากโอลิมปิกเกมส์ 1 ครั้งด้วยกัน ฟุตบอลทีมชาติอิตาลี ก่อตั้งเมื่อปีวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1899 อยู่ภายใต้การดูแลของ สมาพันธ์ฟุตบอลอิตาลี และ สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันในระดับนานาชาติ ส่วนสมาคมฟุตบอลอิตาลีจะเป็นผู้กำกับควบคุมฝึกสอนโดยมีหัวหน้าผู้ฝึกสอนเฮดโค้ชในขณะนี้คือ โรแบร์โต มันชีนี สำหรับอิตาลีถือว่าเป็นตัวเต็งมีสิทธิ์ลุ้นเป็นแชมป์ในการลงแข่งขันทัวร์นาเม้นต์ทุกครั้งเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะล่าสุดที่พึ่งจะได้ครองถ้วยแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า ยูโร 2020 คิดว่างานนี้ ฟุตบอลโลก กาตาร์ 2023 ก็น่าจะได้เข้าลุ้นรอบลึกๆชัวร์แน่นอน

ทีมชาติอิตาลีในอดีต

อัสซูร์รี” ฉายาชื่อเล่นของทีมชาอิตาลีที่มาจากสีเสื้อของทีม ฟ้า – ขาว บางทีก็อาจจะเรียกกันว่าทีมมักโรนีจากอาหารประจำชาติ รองเท้าบู๊ทจากแผนที่ของประเทศ ทีมชาติชุดใหญ่ของอิตาลีเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1899 และความสำเร็จครั้งแรกของทีมก็คือเหรียยทองแดงโอลิมปิกเกมส์ เริ่มเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลในระดับโลกปี 1934 อย่างเป็นทางการทำผลงานเอาชนะคู่แข่งจนได้เป็นแชมป์โลกครั้งแรกอีกด้วย ปี 1938 ก็ป้องกันแชมป์ได้ติดต่อกันอีกสมัย และเป็นทีมฟุตบอลแรกของโลกอีกด้วยที่สามารถครองถ้วยบอลโลกได้ติดต่อกัน 2 ครั้ง จนขนาดถึงนายกรัฐมนตรี เบนิโต มุสโสลินี ส่งโทรเลขชมเชยนักกีฬาที่นำชื่อเสียงและถ้วยรางวัล FIFA World Cup กลับประเทศได้อีกครั้ง

ผลงานและการเข้าร่วมการแข่งขัน

ฟุตบอลโลก ฟีฟ่า เวิล์ดคัพ (FIFA World Cup)
ทีมชาติอิตาลีเป็นชาติที่มีสถิติเป็นเจ้าของแชมป์ถ้วยฟุตบอลโลกมากอีก 1 ประเทศ ตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 18 ครั้งเป็นต้นมาตั้งแต่ปี 1934 ครั้งแรกก็ได้เป็นแชมป์โลกทันที รอบชนะเลิศชิงกับทีมชาติชนะเชโกสโลวาเกีย สกอร์ 2-1 ส่วนครั้งที่ 2 ก็ในปี 1938 เอาชนะฮังการีในรอบชิงชนะเลิศ 4-2 ป้องกันแชมป์และเป็นชาติแรกที่สามารถครองถ้วยได้ 2 สมัยติด ส่วนแชมป์ฟุตบอลโลกรอบที่ 3 คือปีค.ศ. 1982 อิตาลีพบกับเยอรมนีตะวันตก ปิดเกมด้วยสกอร์ 3-1 ชนะเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของทีม และครั้งที่ 4 ก็คือปี ค.ศ. 2006 เอาชนะเยอรมนีเจ้าภาพ 2-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์โลก 2006

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ( EURO Cup)
หลังจากที่เคยเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1938 อิเตาลีก็ยังได้เป็นแชมป์รางวัลใหญ่ถ้วยไหนต่ออีกเลย ทีมต้องรอนานถึง 30 ปีเต็มถึงได้มาเป็นแชมป์ฟุตบอลยูโร ตั้งแต่การเข้าร่วมยูฟ่า ฟุตบอลยูโร1968 ฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันก็ได้เป็นแชมป์ครองถ้วยครั้งแรกในปีเช่นเคย เอาชนะยูโกสลาเวียจากรอบชิงด้วยการลงสนาม 2 รอบเพราะเมื่อก่อรไนไม่มีต่อเวลา ไม่มีดวลจุดโทษ ล่าสุดกับการเป็นแชมป์ยูโร 2020 จากการเอาชนะทีมชาติอังกฤษคาบ้านด้วยการดวลลูกโทษหลังจบเกมส์หมดเวลาและต่อเวลาพิเศษ

ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชันส์ คัพ (FIFA Confederations Cup)
การแข่งขันฟุตบอลจากทีมที่ชนะเลิศมาแต่ละภูมิภาคทั่วโลก (โกปาอเมริกา โอเอฟซี เนชั่นคัพ เอเชี่ยนคัพ แอฟริกาคัพ ออฟเนชั่น โกลด์คัพ ยูโร แชมป์ฟุตบอลโลกล่าสุด เจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งต่อไป) มีจัดการแข่งขันขึ้นในทุกๆ 4 ปี มีทีมเข้าร่วมทั้งหมดเป็นจำนวน 8 ทีม ก่อตั้งปี 1992 อิตาลีทำผลงานได้ดีที่สุดแค่อันดับที่ 3 ในปี 2013 จากการเอาชนะลูกโทษอุรุกวัย และในตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นการแข่งขันฟีฟ่าคลับ เวิลด์คัพ 24 ทีม ขึ้นมาแทน

โอลิมปิกเกมส์ (Olympic Games)
ทีมอิตาลีมีผลงานในระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกก็เพราะได้เหรียญทองแดงจากโอลิมปิกเกมส์ ปี 1928 และในอีก 8 ปีต่อมาถึงได้รางวัลเหรียญทองที่ประเทศเยอรมันเป็นเจ้าภาพเอาชนะออสเตรีย จากจำนวนทีมที่เข้าร่วม 16 ประเทศ

ถ้วยนานาชาติยุโรปกลาง (Central European International Cup)
การแข่งขันฟุตบอลสำหรับประเทศยุโรปที่อยู่ในส่วนกลางของทวีปมีจำนวนทีมทั้งหมด 6 ประเทศและตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นถ้วยฟุตบอลยูโรเป็นที่เรียบร้อย ที่ผ่านมาอิตาลีสร้างผลงานกับการแข่งขันนี้คือได้เป็นแชมป์ถ้วยเมื่อปี 1927 -30 และปี 1933 -35 ทั้งหมด 2 ครั้งด้วยกัน

ผู้เล่นทีมชาติในปัจจุบัน

ผู้เล่นทีมชาติอิตาลีชุดปัจจุบัน

ทีมชาติอิตาลียังคงใช้ตัวผู้เล่นนักเตะเดิมในชุด ยูโร 2020 จำนวนทั้งหมด 26 คนอยู่เช่นเคย แต่อาจจะมีบางคนที่ติดสัญญากับทางสโมสรต้นสังกัดก็จะต้องีการปรับเปลี่ยนต่อไปในอนาคต รายชื่อของนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติอิตาลีทั้ง 26 คนที่คาดว่าจะเป็นผู้เล่นตัวจริง + สำรองในศึก กาตาร์ เวิล์ดคัพ 2022 ทั้งหมดดังนี้

ภาพลักษณ์ทีม / สนามแข่งขัน

ทีมชาติอิตาลี แชมป์ยูโร 2020

ตั้งแต่ได้มีการก่อตั้งฟุตบอลทีมชาติอิตาลีตั้งแต่ปี 1899 มาจนถึงทุกวันนี้ก็รวมๆแล้วประมาณ 122 ปี ผ่านมาแล้วทั้งการเป็นแชมป์โลก แชมป์ยุโรป เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ รองแชมป์ จากการร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวผสมผสานกันของบรรดานักเตะอัสซูร์รีและผู้ฝึกสอนและคนที่เกี่ยวข้องทุกคน แต่มีบางช่วงเวลาเช่นกันที่ทีมชาติอิตาลีฟอร์มการเล่นแสนตกต่ำจนน่าอัปยศขายขี้หน้า อย่างเช่นการตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010 อยู่อันดับท้ายสุดของตารางกลุ่มทั้งๆที่ตัวเองเป็นแชมป์เก่าสมัยที่แล้ว พอมาถึงบอลโลก 2014 ผลงานก็ดีขึ้นมาเล็กน้อยได้เข้ารอบคัดเลือกสุดท้ายแต่ก็แพ้ไปตั้งแต่รอบแรก ล่าสุดฟุตบอลโลกที่รัสเซีย 2018 อิตาลีถึงขั้นไม่ผ่านเข้ารอบคัดเลือกสุดท้ายนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1958 ถืว่าเป็นจุดต่ำสุดของทัพมักโรนีแล้วในตอนนั้น จนได้ โรแบร์โต มันชินี เข้ามากอบกูสถานการณ์ วางแผน ปรับกลยุทธ์ เปลี่ยนตัวผู้เล่นนักเตะชุดใหม่ + เก่า ทั้งหมด เข้ารอบยูโร 2020 ชนะรวดไม่แพ้ทีมไหน จนผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศและได้เป็น แชมป์ยูโร 2020 ในปัจจุบันกำลังรอชิแชมป์ ยูฟ่าเนชั่น ลีก ในเดือนมีนาคม 2565

สตาดีโอโอลิมปีโก (Stadio Olimpico)

สตาดีโอโอลิมปีโก (Stadio Olimpico) สนามกีฬาขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโรม ประเทศอิตาลี ที่ถูกใช้เป็นสนามในการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติอื่นๆเวลาที่อาลีลงเตะแข่งขัน สนามแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1936 และผ่านการใช้งานนัดแข่งขันฟุตบอลสำคัญๆมาแล้วมากมาย ฟุตบอลโลก ฟุตบอลยูโร โอลิมปิกเกมส์ มีความจุที่นั่งในสนามมากถึง 8000 ที่นั่งเลยทีเดียว

สถิติในการแข่งขันจากทุกทัวร์นาเม้นต์ที่เคยเข้าร่วมผ่านมา

เกียรติประวัติ และ ผู้เล่นคนสำคัญ

จันลุยจร บุฟฟอน อดีตกัปตันทีมเจ้าของสถิติลงสนามมากที่สุดตลอดกาล