
ประวัติของทีมชาติสเปน
ฟุตบอลทีมชาติสเปน เป็นทีมฟุตบอลประจำประเทศสเปน อยู่ภายใต้การควบคุมและเป็นตัวแทนของราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปนในการแข่งขันระหว่างประเทศนัดต่างๆ จัดขึ้นโดยสหพันธ์สมาคมฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) สเปนเป็นหนึ่งในแปดทีมชาติที่ได้รับการสวมมงกุฎแชมป์โลกโดยเข้าร่วมการแข่งขัน FIFA World Cup ทั้งหมด 15 ครั้งจาก 21 ถ้วยฟุตบอลโลกและมีคุณสมบัติผ่านการคัดเลือกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1978 สเปนยังได้รับรางวัลระดับทวีปถึง 3 รายการได้ปรากฎตัวขึ้นที่ 11 จาก 15 รายการ UEFA European Championships
สเปนเป็นกลายเป็นทีมแรกในยุโรปที่จะชนะนอกฟีฟ่าเวิลด์คัพของยุโรปในปี 2010 เช่นเดียวกับการเพียงคนเดียวที่จะชนะกลับไปยุโรปประชันในปี 2008 และ ปี 2012 จากปี 2008 ถึงปี 2013 สเปนได้รับรางวัลทีมฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีที่สองมากที่สุดของประเทศใดๆ หลังเพียงบราซิล นอกจากนี้ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2550 และมิถุนายน 2552 สเปนก็ไม่แพ้ใครติดต่อกัน 35 นัด ร่วมกับบราซิล ความสำเร็จของสเปนทำให้ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจารณ์หลายคนมองว่าทีมสเปนในปี 2008 – 2012 เป็นหนึ่งในทีมระดับนานาชาติที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอล สองปีต่อมาพวกเขาถูกตัดออกจากเวทีกลุ่มของฟุตบอลโลก 2014 ที่ยูโร 2016และฟุตบอลโลกปี 2018 ทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในยูฟ่ายูโร 2020 ที่จัดขึ้นในปี 2564 สเปนไปถึงสี่ทีมสุดท้ายก่อนที่จะให้กับแชมป์อิตาลี
ฟุตบอลทีมชาติสเปนได้รับการจัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1920 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นตัวแทนประเทศสเปนไปแข่งฟุตบอลโลกในกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 7 ที่เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ทีมชาติสเปนลงสนามเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 1920 โดยพบกับทีมชาติเดนมาร์กที่สนามกีฬาในกรุงบรัสเซลส์ สเปนสามารถทำสกอร์ไปได้ 1 – 0 และได้เหรียญเงินเป็นครั้งแรกจากการแข่งโอลิมปิกในครั้งนั้น
สเปนได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 12 ครั้ง และเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 1982 ผลงานที่ดีที่สุดที่ทีมชาติสเปนเคยทำได้คือชนะเลิศในปี 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ จากนั้นเข้าร่วมสโมสรแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 8 ครั้ง ครั้งสำคัญคือฟุตบอลยูโรปี 1964 เป็นแชมป์ในบ้านตัวเองหลังจากเอาชนะสหภาพโซเวียตไป 2 – 1 ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร ปี 1984 จัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส สเปนทำได้เพียง รองแชมป์เพราะแพ้ให้กับเจ้าบ้านด้วยสกอร์ 2 – 0 และไม่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศอีกเลยจนกระทั่งการแข่งขันฟุตบอล ยูโรปี 2008 สเปนก็ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จโดยพบกับเยอรมนีและคว้าแชมป์ไปได้ในที่สุด
ผลงานและการเข้าร่วมการแข่งขัน
การแข่งขันใหญ่ของสเปน ระหว่างปี 1950 – 2004
2 กรกฎาคม ค.ศ. 1950 รีโอเดจาเนโร (บราซิล) : สเปน – อังกฤษ (1-0 ประตูจากซาร์รา) ฟุตบอลโลก ปี 1950
16 กรกฎาคม ค.ศ. 1950 รีโอเดจาเนโร (บราซิล) : สเปน – สวีเดน (1-3) ฟุตบอลโลก ปี 1950
21 มิถุนายน ค.ศ. 1964 มาดริด : สเปน – สหภาพโซเวียต (2-1) รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร ปี 1964
21 ธันวาคม ค.ศ. 1983 เซบียา : สเปน – มอลตา (12-1) รอบคัดเลือกฟุตบอลยูโรปี 1984
27 มิถุนายน ค.ศ. 1984 ปารีส : สเปน – ฝรั่งเศส (0-2) รอบชิงชนะเลิศฟุตบอล ยูโร ปี 1984
18 มิถุนายน ค.ศ. 1986 เกเรตาโร (เม็กซิโก) : สเปน – เดนมาร์ก (5-1) ฟุตบอลโลก ปี 1986
8 สิงหาคม ค.ศ. 1992 บาร์เซโลนา : สเปน – โปแลนด์ (3-2) รอบชิงชนะเลิศโอลิมปิกปี 1992
30 กันยายน ค.ศ. 2000 ซิดนีย์ : สเปน – แคเมอรูน (2-3) รอบชิงชนะเลิศโอลิมปิกปี 2000
11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2004 มาดริด : สเปน – อังกฤษ (1-0) เป็นการลงสนามครั้งที่ 500 ของทีมชาติสเปน

อันดับฟีฟ่า อันดับปัจจุบันอยู่ที่ 7 จาก ที่ 1 (12สิงหาคม 2021)
อันดับสูงสุด 1 (กรกฎาคม 2008 – มิถุนายน 2009, ตุลาคม 2009 – มีนาคม 2010, กรกฎาคม 2010 – กรกฎาคม 2011, ตุลาคม 2011 ถึง กรกฎาคม 2014 )
อันดับต่ำสุด 25 ในเดือนมีนาคม 1998
ฟุตบอลโลก เข้าร่วม 14 ครั้ง ครั้งแรกใน ปี 1934
ผลงานดีที่สุด ชนะเลิศ, 2010
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เข้าร่วม 9 ครั้ง ครั้งแรกในปี 1964
ผลงานดีที่สุด ชนะเลิศ 1964 2008 และ 2012
โอลิมปิก ฤดูร้อน เข้าร่วม 10 ครั้ง ครั้งแรกในปี 1920
ผลงานดีที่สุด Champions, 1992
คอนเฟเดอเรชันส์คัน เข้าร่วม 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี 2009
ผลงานที่ดีที่สุด Runners – up, 2013
ผู้เล่นทีมชาติสเปน

ผู้จัดการทีม หลุยส์ เอ็นริเก
ผู้รักษาประตู ( Goalkeeper )
- ดาบิด เด เคอา จาก แมนเซสเตอร์ ยูไนเต็ด
- อูไน ซิมอน จาก แอธเลติก บิลเบา
- โรเบิร์ต ซานเชซ จาก ไบรท์ตัน แอนด์โฮฟ อัลเบี้ยน
กองหลัง ( Defender )
- จอน์ดี้ อัลบา จาก บาร์เซโลนา
- เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า จาก เชลซี
- โฆเซ กายา จาก บาเลนเซีย
- เอริค การ์เซีย จาก บาร์เซโลนา
- ดิเอโก้ ยอเรนเต้ จาก ลีดส์ ยูไนเต็ด
- เปา ตอร์เรส จาก บียาร์เรอัล
- ไอเมอริค ลาปอร์ต จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้
กองกลาง ( Midfielder )
- เซร์คิโอ บุสเก็ตส์(กัปตัน) จาก บาร์เซโลนา
- เปดรี จาก บาร์เซโลนา
- โรดรี จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- ติอาโก้ อัลกันทาร่า จาก ลิเวอร์พูล
- มาร์กอส ยอเรนเต จาก แอตเลติโก มาดริด
- โกเก้ จาก แอตเลติโก มาดริด
- มาร์โก ฟาเบียน (นาโปลี)
- เซฆิโอ กานาเลส จาก เรอัล เบติส
กองหน้า (Attacker)
- มิเกล โอยาร์ซาบัล จาก เรอัล โซเซียดาด
- เฟร์ราน ตอร์เรส จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- เคราร์ด โมเรโน จาก บียาร์เรอัล
- อัลบาโร โมราตา จาก ยูเวนตุส
- อดามา ตราโอเร จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
- ไบรอัน กิล จาก เออิบาร์
ภาพลักษณ์ทีม / สนามการแข่งขัน
ทีมชาติสเปนเป็นที่รู้จักกันในฉายา “La Furia Roja” มาจากชาวอิตาลีเป็นผู้คิดค้นขึ้นและนำมาใช้เรียกทีมชาติในภาษาของตนว่า Furia Rossa คำว่า ฟูเรีย คือความดุเดือด, ความโมโหร้าย เพราะมาจากรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างรุนแรงของนักฟุตบอลสเปนในการแข่งขันนัดต่างๆ ต่อมาก็ถูกนำมาใช้เรียกเหตุการณ์การปล้นเมืองแอนต์เวิร์ปของสเปนในสงคราม 80 ปี (1576) เป็นตำนานมืดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์การทหารของสเปนด้วย ส่วนคำว่า รอสซา มาจากสีของเสื้อทีม สำหรับในประเทศไทยนั้นทีมสเปนมีฉายาว่า “กระทิงดุ”

สนามการแข่งขัน : สเปนไม่มีสนามกีฬาที่กำหนด แต่การแข่งขันรอบคัดเลือกที่สำคัญมักจะเล่นที่สนามกีฬา ซานติอาโก เบร์นาเบว (Santiago Bernabeu) ในเมืองหลวงมาดริด ชื่อเดิม เรอัลมาดริด คลับ เด ฟุตบอล สเตเดียม เป็นสี่เมืองของสเปนที่มีการแข่งขันทีมชาติมากกว่า 15 นัด

การแต่งกายของทีมชาติสเปน : ตามธรรมเนียม ชุดแข่งของสเปนจะเป็นเสื้อแดงตัดขอบสีเหลือง กางเกงสีน้ำเงินเข้ม และถุงเท้าสีดำ ชุดเยือนปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นสีขาวถุงเท้าเปลี่ยนสีตลอดช่วงทศวรรษ 1990 จากสีดำเป็นสีน้ำเงินเหมือนกับกางเกงขาสั้น เข้าคู่กับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินหรือสีแดงของเสื่อเชิ้ตจนถึงกลางปี 2010 และพวกเขากลับมาใช้สีดำแบบดั้งเดิม ชุดแข่งของสเปนผลิตโดย Adidas ตั้งแต่ปี 1981 ถึง 1983 จากนั้น Le Coq Sportif ก็ออกแบบชุดตั้งแต่ 1983 ถึง 1991 และกลับมา Adidas อีกครั้ง ตั้งแต่ปี 1991 จริงๆ โลโก้ของสหพันธ์ฟุตบอลสเปนเสื้อของสเปนจะมีตนาแผ่นดินของสเปนอยู่เหนือหน้าอกด้านซ้าย หลังจากชนะการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ตราผู้ชนะการแข่งขันฟุตบอลถูกเพิ่มที่หน้าอกด้านขวาของเสื้อและมีดาวสีทองที่ด้านบนของแขนเสื้อสเปน
สถิติในการแข่งขัน
สเปน ชนะรวด 15 นัด ทำลายสถิติโลกมากที่สุด ใน ปี พ.ศ. 2551 – 2552
เทียบเท่าบราซิล สเปนไม่แพ้ทีมใด 35 นัดติดต่อกัน ปี พ.ศ. 2550 – 2552
เกียรติประวัติและผู้เล่นคนสำคัญ

- ดาบิด บิยา หรือชื่อเต็ม ดาบิด บิยา ซันเซซ เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ.1981 ปัจจุบันอายุ 39 ปี เกิดที่ ลังเกรโอ ประเทศสเปน ส่วนสูง 175 ซม.(5 ฟุต 9 นิ้ว) ตำแหน่งกองหน้า หมายเลข 7
เป็นนักฟุตบอลทีมชาติสเปนที่ผ่านมาเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกติดต่อกันถึง 3 สมัย คือฟุตบอลโลก 2006, ฟุตบอลโลก 2010 และฟุตบอลโลก 2014 ยังคว้าแชมป์โลกมาได้หนึ่งสมัย คือฟุตบอล 2010 และเป็นเจ้าของสถิติผู้ทำประตูสูงสุดของทีมชาติสเปน คือ 59 ประตูและยังทำลายสถิติเดิมของ ราอูล กอนซาเลซ และเป็นนักฟุตบอลสเปนที่ยิงในฟุตบอลมากที่สุดคือ 9 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 12 นัด - ราอุล กอนซาเลซ ชื่อเต็ม ราอุล กอนซาเลซ บลังโก เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1977 ปัจจุบันอายุ 44 ปี เกิดที่ มาดริด ประเทศสเปน ส่วนสูง 179 ซม. (5 ฟุต 10 ½ นิ้ว) ตำแหน่งกองหน้า สโมสรปัจจุบัน นิวยอร์กคอสมอส หมายเลข 7
ราอุลมีโอกาสลงเล่นทีมชาติสเปนชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1996 จนถึงปี 2006 ตลอด 10 ปีกับทีมชาติ ราอุลลงเล่นไปทั้งหมด 102 นัด ยิงไป 44 ประตู ซึ่งถือเป็นสกอร์สูงสุดตลอดกาลของทีมชาติสเปน และมีโอกาสไปเล่นทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่างฟุตบอลโลก 1998, 2002, 2006 และยูโร 1996, 2000, 2004