
รู้ไหมว่าในเดือนเมษายน ปี 2018 นั้น สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ ฟีฟ่า ก็ได้ออกแนวคิดจริงจังกับการเพิ่มทีมเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เป็น 48 ทีม จาก 32 ทีม ซึ่งอยู่ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่ายทั่วโลก แต่หลังจากนั้น 1 ปีต่อมา ทางฟีฟ่าก็ได้สินใจล้มเลิกแผนเพิ่มทีม ในการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยการอ้างถึงปัญหาด้านการขนส่ง และการคมนาคม ที่ยังไม่พร้อม ต่อการเพิ่มระดับของการแข่งขัน แต่ข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะไม่เป็นไปในทางเดียวกับที่ฟีฟ่าแถลงออกมา เพราะปัญหาที่ฟุตบอลโลกครั้งหน้า ต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลาก็คือ ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ของแรงงานในประเทศกาตาร์ จนส่งผลสำคัญให้ฟุตบอลโลก ยังคงต้องแข่งขัน ด้วยจำนวนทีมตามเดิมต่อไป เมื่อเวลาผ่านเข้าสู่ปี 2021 ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกาตาร์นั้นก็ยังคงไม่ได้รับความแก้ไขแต่อย่างใดทางฟีฟ่า ก็ยังคงปิดหูปิดตากันและปล่อยให้มีแรงงานทาสในกาตาร์ต่อไป ส่วนตัวเองรับเงินก้อนโตเอาไว้ จนชาติสมาชิกอย่าง นอร์เวย์และเยอรมัน ไม่สามารถทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ขอส่งสัญญาณชัดๆ ไปให้ ฟีฟ่า เพื่อเรียกร้องถึงประเด็นสิทธิมนุษยชน ในความคิดของหลายๆ คนนั้นคงจะคิดว่า ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ควรจะเป็นภาพที่งดงาม ใช่จริงๆ แล้วมันควรจะเป็นภาพที่งดงาม กับการใช้เกมลูกหนังเป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมโลกทั้งใบเข้าด้วยกัน แต่ใครจะรู้ว่าการแข่งขันในครั้งนี้ กำลังจะเป็นการเตะบอลบนซากศพ และกองเลือด หลังต้องมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6500 คน เพื่อรักษาสถานะภาพของกาตาร์ ในฐานะฟุตบอลโลกเอาไว้

ไปพบกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ภายในประเทศกาตาร์กับประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพื่อให้การแข่งขันฟุตบอล ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งต้องแลกด้วยชีวิตของคนหลายพันคน ซึ่งจุดเริ่มต้นของปัญหาที่กาตาร์เจอมาตลอด กับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก คือการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเหล่าแรงงาน ที่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความพร้อมกับฟุตบอลรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เพราะหากมองถึงความพร้อมในการเป้นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ย้อนไปเมื่อปี 2010 ที่กาตาร์ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก กาตาร์ได้รับเสียงโหวตชนะจาก 4 ประเทศดังนี้ สหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่า ชาติที่กาตาร์เอาชนะมาได้ ล้วนมีความพร้อม ที่เหนือกว่าชาติจากตะวันออกกลาง ในการจัดการแข่งฟุตบอลโลก ทั้งเรื่องของสนาม, ที่พัก, สิ่งอำนวยความสะดวก, การเดินทาง และสภาพอากาศ แต่ถึงแม้กาตาร์นั้นจะโดนข้อครหา จากชาติฟุตบอลชั้นนำทั่วโลก ว่ากาตาร์ใช้เงินซื้อ การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ซึ่งมีสื่อข่าวออกมารายงานว่า ฟีฟ่าได้รับเงินมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือถ้าเทียบกับเงินไทยก็ตกอยู่ราวๆ กว่า 30 ล้านบาท จากรัฐบาลกาตาร์ เพื่อให้ได้สิทธิ์การเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก เหนือสหรัฐอเมริกาตัวเลือกที่แท้จริงของฟีฟ่า แต่จริงๆ พวกเขาก็ยังมีเวลามากกว่า 10 ปี ในการสร้างสรรค์ ความพร้อมให้กับประเทศ เพื่อจัดฟุตบอลโลก 2022 ให้ออกมาประสบความสำเร็จแบบที่แฟนบอลทั่วโลกนั้นต้องการ หลายคนก็คงจะสงสัยกันใช่มั้ยว่าอะไรที่เป็นปัญหาสำคัญของกาตาร์ที่ต้องเผชิญ เราจะพามาหาคำตอบกันที่นี่

ปัญหาสำคัญที่กาตาร์ต้องเผชิญ คือพวกเขามีสนามฟุตบอลระชาติ เพียงแค่ 2 สนาม ทำให้กาตาร์ต้องสร้างสนามใหม่อีก 6 สนามให้เสร็จทันก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มต้น ด้วยข้อบังคับว่าต้องมีความจุอย่างน้อย 40,000 ที่นั่ง เพื่อรองรับแฟนบอลจากทั่วโลก ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นของการละเมิดสิทธิมนุษยชน ของแรงงานในประเทศกาตาร์ ที่นำไปสู่การตายของแรงงาน ที่ทำงานหนักจนเสียชีวิตด้วยค่าเฉลี่ย 1 คนต่อ 2 วัน ซึ่งแฟนบอลหลายๆ คนก็อาจจะตกใจกันไม่น้อย และยังไม่รู้ว่าจริงเท็จอย่างไร แต่จริงๆ แล้วเหตุการณ์แบบนี้มีข่าวออกทั่วไป แต่อาจจะมีข่าวออกน้อย เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของประเทศเจ้าภาพเอาไว้ เรื่องแรงงานทาส กาตาร์มีอุปสรรคด้านประชากร ซึ่งจำนวนแค่ 2300000 คนเท่านั้น ทรัพยากรมนุษยถือว่ามีอย่างจำกัดมาก ทำให้กาตาร์ต้องเปิดรับแรงงานต่างชาติจาก อินเดีย, ปากีสถาน และบังคลาเทศ เข้ามาทำงาน เพื่อช่วยสร้างสนามให้ทันในศึกฟุตบอลโลก 2022 อ่านมาถึงตรงนี้เราก็น่าจะมองประเทศกาตาร์ไปอีกด้านหนึ่งเลย จากที่มองว่าประเทศนี้มีแต่ความสวยงาม แต่พอมารู้ลึกๆ แบบนี้ ต้องมีหดหู่กันบ้างใช่มั้ยล่ะ แต่จริงๆ แล้วการสร้างสนามฟุตบอลที่กาตาร์ ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน แม้จะมีเงินมหาศาลพร้อมสนับสนุน เพราะต้องสร้างสนามขึ้นพร้อมกัน 6 สนามและต้องได้มาตรฐาน ไม่แพ้กับสนามฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่ในทวีปยุโรป