ประวัติทีมชาติอุรุกวัย

 ฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัย (Selección de fútbol de Uruguay) แม้จะมีประชากรเพียง 3.25 ล้านคน แต่อุรุกวัยก็ประสบความสำเร็จอย่างมากในเวทีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศระดับนานาชาติ และเป็น ประเทศแรกที่เป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกจากฟีฟ่า จากสถิติของทีมชาติที่เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกถึง 2 ครั้งคือครั้งแรกที่เป็นเจ้าภาพเมื่อปี 1930 เอาชนะอาร์เจนตินา 4-2 และครั้งถัดมาคือปี 1950 ที่บุกไปเอาชนะเจ้าถิ่นบราซิลคาบ้านด้วยสกอร์ 1- 2 ได้แชมป์โลกมาครองอีกสมัย ส่วน โคปา อเมริกาเป็นแชมป์สถิติ 15 ครั้ง และเป็นประเทศที่ได้แชมป์โคปาเท่าๆกับอาร์เจนตินาอีกด้วย อุรุกวัยยังได้รับเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 1924 และ 1928 ฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัยก็อยู่ภายใต้การดูแลของ สมาคมฟุตบอลอุรุกวัย ซึ่งเป็นองค์กรปกครองด้านกีฬาฟุตบอลของประเทศ สังกัดร่วมกับ สมาพันธ์ฟุตบอลโซนอเมริกาใต้ (CONMEBOL)

ทีมชาติอุรุกวัยลงสนามครั้งแรกที่มีการบันทึกไว้ก็คือ 16 พฤษภาคม 1901 กับอาร์เจนตินา แต่เกมนี้ไม่ถือว่าเป็นเกมที่เป็นทางการเพราะไม่ได้จัดโดยสมาคมของอุรุกวัย ทีมชาติอุรุกวัยมีผู้เล่นเก้าคนที่มาจากการแข่งขันครั้งแรกที่ว่านี้และหานักกีฬามาเพิ่มจนครบจำนวนแล้วลงสนามนัดแรกที่ถือว่าเป็นทางการก็ปี 1902 ที่เจอกับอาร์เจนตินาเช่นเดิมท่ามกลางผู้ชม 8000 คน และมีการก่อตั้งถ้วย โคปา อเมริกา ที่เป็นการชิงแชมป์ฟุตบอลทวีปอเมริกาใต้เกิดขึ้นอุรุกวัยก็เป็นแชมป์ที่มากสุดในประวัติศาสตร์ของทัวร์นาเม้นต์คือ 15 ครั้ง

ฟุตบอลโลกครั้งแรก ประเทศอุรุกวัย ค.ศ1930

อุรุกวัยได้รับเลือกให้เป็นประเทศเจ้าภาพสำหรับการแข่งขัน ฟุตบอลโลกครั้งแรกปี 1930 และได้เป็นแชมป์ รอบต่อมาฟุตบอลโลกปี 1934 ที่ประเทศอิตาลี สมาคมฟุตบอลของอุรุกวัยก็เรียกร้องให้หลายๆประเทศคว่ำบาตรไม่เข้าร่วมและปี 1938 ฝรั่งเศสก็เช่นกันเพราะว่าผิดข้อตกลงก่อนหน้าที่จะสลับการแข่งขันระหว่างอเมริกาใต้และยุโรปเป็นเจ้าภาพ ในปัจจุบันอุรุกวัยมีนักฟุตบอลรุ่นใหม่นำโดย หลุยส์ ซัวเรส และผู้ฝึกสอนชั้นเยี่ยมอย่าง ออสการ์ ทาบาเรซ ที่พาทีมชาติอุรุกวัยยิ่งใหญ่แน่นอน

ผลงานและการเข้าร่วมการแข่งขัน

ผลงานเข้าร่วมแข่งขันนานาชาติ
  1. ฟุตบอลโลก เริ่มต้นด้วยการเป็นเจ้าภาพครั้งแรก 1930 แต่ก่อนหน้านั้นที่ฟุตบอลโลกยังรวมกับโอลิมปิกของเดิมอุรุกวัยเป็นแชมป์รวมแล้วถึง 4 ครั้งเลยทีเดียว ฟุตบอลโลกที่จัดมาแล้วทั้งหมด 12 ครั้งที่อุรุกวัยเข้าร่วมสามารถเข้าถึงรอบคัดเลือกทีมสุดท้ายได้ทั้งหมด
  2.  โคปา อเมริกา  การแข่งขันฟุตบอลชายของทวีปอเมริกาใต้ที่สุดในโลก อุรุกวัยชนะการแข่งขันและเป็นแชมป์ทีมแรกและเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทัวร์นาเมนต์ครองถ้วยมากถึง 15 ครั้งเอาชนะอาร์เจนตินาคู่แข่งไป 1 สมัย
  3.  ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชันส์คัพ การแข่งขันระหว่างทีมที่ชนะเลิศจากแต่ละภูมิภาคทั่วโลกจัดทุก 4 ปีเริ่มขึ้นเมื่อปี 1992 ซึ่งทีมชาติอุรุกวัยเข้าร่วมเมื่อปี 1995 จากโควตาแชมป์โคปา อเมริกา จบผลงานดีสุดอันดับ 4 แลครั้งต่อมาก็ที่บราซิลปี 2013
  4.  โอลิมปิกเกมส์ ได้เหรียญทองมา 2 ครั้งเมื่อปี 1924 ที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพ เอาชนะสวิสเซอร์แลนด์ 3 – 0 และปี 1928 ที่ประเทศเนเธอแลนด์เอาชนะอาร์เจนติน่าคู่ปรับเก่าด้วยการกลับมาแข่งหลังจบเกมส์เสมอกัน ซึ่งโอลิมปิกเกมส์ทั้ง 2 ครั้งที่ว่ามายังถูกรวมเข้ากับฟุตบอลโลกอยู่จึงทำให้อุรุกวัยได้รับอนุญาตปักดาว 4 ดวงที่แสดงถึงจำนวนแชมป์โลกที่ตนเองเคยได้รับ

ผู้เล่นทีมชาติปัจจุบัน

ผู้เล่นทีมชาติชุดปัจจุบัน

ผู้เล่นทีมชาติชุดปัจจุบัน ผู้เล่น 26 คนทีมีชื่ออยู่ในทีชาติตัวจริงเบื้องต้นสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก กาตาร์ 2022 นัดเจอกับเปรู โบลิเวีย และเอกวาดอร์

  1. ผู้รักษาประตู 2 คน ได้แก่ มาร์ติน กัมปานญ่า,เฟร์นันโด มุสเลรา
  2. ผู้เล่นตำแหน่งกองหลัง 7 คน ได้แก่ ดิเอโก โกดิน(กัปตัน),โฆเซ่ มาเรีย กิเมเนซ, มาร์ติน กาเซเรส,เซบัสเตียน โกอาเตส,โรนัลด์ อาเราโฆ,มาติอัส บิญญา,โฆอากิน ปีเกเรซ
  3. ผู้เล่นตำแหน่งกองกลาง 10 คนได้แก่ เมาโร อารัมบาร์รี,ลูกัส ตอร์เรย์รา,โรดริโก้ เบนตันกูร์,มาธิอัส เบซิโน่,เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้,มานูเอล อูการ์เต,เฟอร์นานโด โฟนเทส,นาอีตัน นานเดซ,ฮาเมส โรดริเกซ,นิโกลัส เด ลา กรูซ
  4. ผู้เล่นศูนย์หน้า 7 คนได้แก่ โจนาธาน โรดรีเกซ,กัสตอน เปเรย์โร,ดาบิด เตรันส์,จอร์เจียน เด อาร์ราสกาเอตา,มักซิมิเลียโน่ โกเมซ,หลุยส์ ซัวเรซ(กัปตัน)

ภาพลักษณ์ทีมในปัจจุบัน / สนามแข่งขัน

ตอนนี้ทีมชาติอุรุกวัยอยู่ในลำดับที่ 13 ของฟีฟ่า อันดับ 6 คอมเมบอล นับตั้งแต่ก่อตั้งทีมชาติขึ้นมาอุรุกวัยเป็นทีมชาติที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในกีฬาฟุตบอล ลุยส์ ซัวเรซ กัปตันทีมชาติที่เป็นผู้นำทีมยุคใหม่ในยุคปัจจุบันที่ทำให้คุณภาพทีมปัจจุบันถือว่าดีที่สุดของอุรุกวัยในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่าน ฟุตบอลโลก 2010 ได้รับความสนใจจากนานาชาติทั่วโลกถึงฟอร์มการเล่นสุดร้อนแรงของทีมอุรุกวัยเริ่มเกมส์เสมอฝรั่งเศส ชนะ แอฟริกาใต้แมกซิโก เข้ารอบแชมป์กลุ่มเจอเกาหลีใต้รอบเพย์เอ้าท์ แต่ไปแพ้เนเธอแลนด์กับเยอรมันได้ที่ 4 ในปีนั้นและ ดิเอโก ฟอลันรับรางวัลเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของแมตช์อีกด้วย

รายการถ้วยรางวัลฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัย

เหตุการณ์ย่ำแย่ของทีมชาติอุรุกวัยเริ่มเกิดขึ้นในปี 2014 ศึกฟุตบอลโลกที่บราซิลเป็นเจ้าภาพในนัดลงสนามเจอกันกับทีมชาติอิตาลี เมื่อซัวเรสกลับมาลงสนามหลังอาการบาดเจ็บดีขึ้นเพื่อช่วยทีมหลังจากแพ้คอสตาริกาหนีตกรอบให้ได้ เอชนะอังกฤษและมาเจออิตาลีที่ร่วมสาย D ชัวเรสก็ได้เข้าปะทะอย่างแรงกับกองหลังชาวอิตาลี จอร์โจ้ คิเอลลินีและ 2 วันต่อจากนั้นฟีฟ่าก็ได้ลงโทษด้วยการสั่งห้ามซัวเรสไม่ให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล (รวมถึงการเข้าไปในสนามใดๆ) เป็นเวลาสี่เดือนและปรับ 100,000 ฟรังก์สวิสและก็แพ้ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ต่อมาในอีกปีถัดไป 2015 และ 2016 หลังจากที่ขาดซัวเรสไปแล้วอุรุกวัยก็ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิมคือคว้าแชมป์โคปา อเมริกา มากที่สุด16 ครั้งในประวัติศาตร์ทำลายสถิติทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอเมริกาใต้นำอาร์เจนตินาไป 1 สมัย อุรุกวัยได้ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกปี 2018 ที่รัสเซีย เข้ารอบแชมป์กลุ่ม รอบ 16 ทีม 8 ทีมแต่ไปแพ้ให้ฝรั่งเศสในรอบก่อนชิงชนะเลิศคอผลงานล่าสุดของอุรุกวัยในปัจจุบัน

เอสตาดิโอ้ เซนเตนาริโอ้

สนามกีฬาที่ทีมชาติอุรุกวัยเอาไว้เป็นสนามเหย้าเมื่อมีทีมชาติอื่นๆมาเยือนก็คือ เอสตาดิโอ้ เซนเตนาริโอ้ (Estadio Centenario) ที่มอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของอุรุกวัย สนามกีฬาแห่งนี้ถูกใช้เป็นสนามเมื่ออุรุกวัยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1930 และอีกหลายนัดสำคัญมีความจุของผู้เข้าชมในสนามได้ถึง 90,000 ที่นั่ง และเป็นหนึ่งในสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยขนาดความกว้างกว่า 100 ม. และยาว 100 ม.

สถิติในการแข่งขันที่ดีที่สุดทั้งหมด ทุกทัวร์นาเม้นต์

  1. ฟุตบอลโลก เข้าร่วมทั้งหมด 13 ครั้ง เป็นแชมป์ 2 ครั้งปี 1930 และ 1950
  2.  โคปา อเมริกา เข้าร่วมทั้งหมด 44 ครั้ง เป็นแชมป์ 16 สมัย (1916, 1917, 1920, 1923, 1924, 1926, 1935, 1942, 1956, 1959, 1967, 1983, 1987, 1995, 2011)
  3.  ฟีฟ่า คอนเฟรเดอเรชั่นคัพ เข้าร่วมทั้งหมด 2 ครั้ง อันดับที่ 4 ในปี 1997 และ 2013
  4. โอลิมปิกเกมส์ (ที่ยังรวมฟุตบอลโลกชายที่ยังไม่ใช่ฟีฟ่าเป็นคนจัด) เหรียญทอง 2 สมัยปีค.ศ.1924 และ 1928 (แชมป์โลก)

เกียรติประวัติ และ ผู้เล่นคนสำคัญในอดีต

ดิเอโก โกดิน