ทีม ฟุตบอลโลก 2022 ทีมชาติเวลส์ “มังกรแดง”  ซึ่งได้กลับมาโชว์ฝีเท้าในศึกเวิลด์คัพ รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปีของ ฟุตบอลโลก 2022ที่กาตาร์

ผลงานที่ผ่านมา มังกรแดง ทีมชาติเวลส์

ครั้งสุดท้ายที่ทีมชาติเวลส์ได้ไปโชว์ฝีเท้าในฟุตบอลโลกต้องย้อนไปไกลถึงศึกเวิลด์คัพ 1958 ที่ประเทศสวีเดน ซึ่งครั้งนั้นพวกเขาทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และหลังจากนั้นเป็นต้นมา ทัพนักเตะ “มังกรแดง” ก็หายหน้าหายตาไปจากเวทีเวิลด์คัพ รอบสุดท้าย มาโดยตลอด

กระทั่งเวลาผ่านไปนานถึง 64 ปี เวลส์จึงได้มาปรากฏตัวอีกครั้งในศึกฟุตบอลโลก 2022 และพวกเขาต้องลุ้นกันตัวโก่งเลยทีเดียวกว่าจะคว้าตั๋วเข้ารอบสุดท้ายได้ โดยในรอบคัดเลือก เวลส์ จบด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่มอี จึงต้องไปเหนื่อยต่อในรอบเพลย์ออฟ โซนยุโรป ผลปรากฏว่า เวลส์ ปราบ ออสเตรีย 2-1 และเฉือน ยูเครน 1-0 จึงสามารถคว้าตั๋วมาลุยกาตาร์ได้สำเร็จ

กุนซือและผู้เล่นคีย์แมน

ก่อนหน้านี้ เวลส์มีกุนซือคือ ไรอัน กิ๊กส์ ตำนานปีกแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ต่อมา กิ๊กส์ ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเกี่ยวกับคดีทำร้ายร่างกายแฟนสาว สมาคมลูกหนังเวลส์จึงมอบหมายให้ผู้ช่วยกุนซืออย่าง ร็อบ เพจ เข้ามาคุมทีมขัดตาทัพตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 และเฮดโค้ชวัย 47 ปีรายนี้ก็สามารถพาทีมทำผลงานดีเหลือเชื่อ กระทั่งคว้าตั๋วเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ

ด้วยเหตุนี้ ทำให้ ไรอัน กิ๊กส์ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติเวลส์ไปเมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อที่ ร็อบ เพจ จะได้สิทธิขาดในการคุมทัพมังกรแดงอย่างเต็มตัว

ขณะที่ผู้เล่นตัวความหวังของเวลส์จะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกเสียจาก แกเรธ เบล ดาวยิงกัปตันทีมวัย 33 ปีซึ่งฤดูกาลที่แล้ว ยิงประตูให้ เรอัล มาดริด ได้แค่ลูกเดียวเท่านั้น แต่สำหรับในทีมชาติแล้ว แกเรธ เบล ซึ่งปัจจุบันย้ายไปค้าแข้งกับ แอลเอ เอฟซี ในลีกสหรัฐ ยังคงเป็นผู้เล่นที่เวลส์ขาดไม่ได้เป็นอันขาด

นอกจากนี้ เวลส์ยังมีคีย์แมนสำคัญอีกรายคือ อารอน แรมซี่ย์  กองกลางจากยูเวนตุส ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเบล นั่นคือผลงานในสโมสรไม่ได้เรื่อง แต่มักจะโชว์ฟอร์มเทพ และเป็นผู้เล่นหัวใจสำคัญของทีม เมื่อยามกลับมาลงสนามให้ทีมชาติ

วิเคราะห์เส้นทางสู่แชมป์

ทีมชาติเวลส์ อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ อิหร่าน, อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่า “สิงโตคำราม” อังกฤษ เป็นทีมเต็งเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือ ศักยภาพไม่หนีกันมากนัก จึงน่าจะเบียดแย่งอันดับ 2 กันอย่างดุเดือดแน่นอน 

ทั้งนี้ หาก เวลส์ สามารถจบด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม พวกเขาจะเข้ารอบสองไปเจอกับทีมแชมป์กลุ่มเอ ที่คาดว่าจะเป็น “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ ซึ่งถือเป็นด่านสุดหินของทัพมังกรแดง และดูเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะทะลุเข้ารอบไปได้ไกลกว่านี้

แต่ไม่ว่าทีมชาติเวลส์จะจอดป้ายแค่รอบแรก หรือเข้ารอบลึกแค่ไหน อย่างน้อยๆ การที่พวกเขาได้กลับมาโชว์ฝีเท้าในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าปลาบปลื้มแล้ว ส่วนผลงานหลังจากนี้ถือเป็นโบนัสที่สาวกมังกรแดงจะได้ลุ้นกัน

โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 ของทีมชาติเวลส์

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 02:00 น. (คืนวันจันทร์ที่ 21 พ.ย.)

สหรัฐอเมริกา พบ เวลส์ : สนาม อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม เมืองอัล รายยาน

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน เวลา 17:00 น.

เวลส์ พบ อิหร่าน : สนาม อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม เมืองอัล รายยาน

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 02:00 น. (คืนวันอังคารที่ 29 พ.ย.)

เวลส์ พบ อังกฤษ : สนาม อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม เมืองอัล รายยาน