
ผลงานที่ผ่านมา ทีมชาติแคเมอรูน “หมอผี”
หลังจากพลาสมัยที่ 8 ที่ได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้าย โดยมีผลงานดีที่สุด คือการเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 1990 ที่ประเทศอิตาลี
ส่วนเส้นทางเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ของแคเมอรูนถือว่าลุ้นกันปัสสาวะแทบเล็ด โดยในรอบคัดเลือก รอบสอง โซนแอฟริกา ทัพหมอผีปาดหน้าทีมแกร่งอย่างไอวอรี่ โคสต์ คว้าแชมป์กลุ่มดี ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบ 3 ซึ่งแข่งแบบเหย้า-เยือน พบกับงานหนักอย่าง แอลจีเรีย
ผลปรากฏว่า นัดแรก แคเมอรูน พลาดท่าพ่ายคาบ้าน 0-1 ก่อนที่นัดสองจะมีฮึดบุกไปชนะ แอลจีเรีย คืนได้ 1-0 ทำให้สกอร์รวมเสมอ 1-1 และต้องเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที ซึ่ง อาห์เหม็ด ทูบา ยิงประตูสำคัญให้ แอลจีเรีย ในนาที 118 แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อ คาร์ล โตโก เอคามบี้ ซัดประตูสำคัญกว่าให้กับ แคเมอรูน ในนาที 120+4 และนั่นทำให้เกมจบลงด้วยชัยชนะของแคเมอรูน 2-1 สกอร์รวมเสมอ 2-2 แต่ขุนพล “สิงโตแห่งยาอุนเด้” ได้ฉลองด้วยกฏอเวย์โกล์ และคว้าตั๋วมาลุยกาตาร์ได้แบบดราม่าสุดๆ
กุนซือและผู้เล่นคีย์แมน
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทีมชาติแคเมอรูน จบอันดับ 3 ในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ และบวกกับมีความขัดแย้งระหว่างโค้ชกับผู้เล่นซีเนียร์ ทำให้ โทนี่ คอนไซเซา โดนเด้งตกเก้าอี้กุนซือ และสหพันธ์ฟุตบอลแคเมอรูนก็มอบหมายให้ “ริโกแบร์ ซง” อดีตปราการหลังลิเวอร์พูล ซึ่งคุมทีมชุดยู-23 ขึ้นมารับตำแหน่งกุนซือทีมชุดใหญ่แทน และสามารถพาทีมฝ่าด่าน แอลจีเรีย คว้าตั๋วเข้ารอบสุดท้ายเวิลด์คัพได้สำเร็จ
สำหรับ ซง วัย 46 ปี ถือเป็นตำนานเจ้าของสถิติลงเล่นให้กับแคเมอรูนมากที่สุด 137 นัด และผ่านเวทีฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้วถึง 4 สมัย ในปี 1994, 1998, 2002 และ 2010 ซึ่งในฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ริโกแบร์ ซง จะได้ลุยเวิลด์คัพในฐานะผู้จัดการทีมเป็นครั้งแรก
ส่วนขุมกำลังทัพหมอผีแทบทุกคนล้วนออกไปค้าแข้งในลีกต่างประเทศ โดยมีผู้เล่นตัวหลักอย่าง แวงซองต์ อาบูบาการ์ หัวหอกกัปตันทีมวัย 30 ปี จากสโมสรอัล นาสเซอร์ ในลีกซาอุดีอาระเบีย ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงตัวความหวังของทีม นับตั้งแต่หมดยุคของ ซามูเอล เอโต้ ที่ปัจจุบันผันตัวไปสวมสูทนั่งเก้าอี้ประธานสหพันธ์ฟุตบอลแคเมอรูนไปแล้ว
นอกจากนี้ แคเมอรูนยังมีกองหน้าประสบการณ์สูงอย่าง เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ดาวยิงจอมเก๋าของบาเยิร์น มิวนิค พร้อมด้วยสตาร์ดัง อาทิ อองเดร-ฟรองก์ แซมโบ อองกิสซ่า มิดฟิลด์ชื่อย้าววว…ยาวจากนาโปลี และ อองเดร โอนานา นายทวารจอมหนึบของอินเตอร์ มิลาน แต่น่าเสียดายที่ โฌแอล มาติป ปราการหลังจากค่ายหงส์แดง ลิเวอร์พูล ประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปแล้ว เนื่องจากมีปัญหากับสหพันธ์ลูกหนังบ้านเกิด ไม่งั้นแคเมอรูนจะแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้อีกแน่นอน

ทีมชาติแคเมอรูนเจองานหนักในรอบแรก เมื่อถูกจับให้อยู่ในกลุ่มจี ร่วมกับ บราซิล, เซอร์เบีย และ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งดูจากชื่อชั้นแล้ว ทัพ “แซมบ้า” น่าจะจองตำแหน่งแชมป์กลุ่มลอยลำเข้ารอบ ส่วนรองแชมป์กลุ่มต้องแย่งกันอย่างดุเดือดแน่นอน เพราะ 3 ทีมที่เหลือศักยภาพไม่ได้ห่างกันมากเท่าไร
ทั้งนี้ โปรแกรมสองนัดแรกของ แคเมอรูน จะพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ และเซอร์เบีย ซึ่งถือว่าสำคัญมาก เพราะถ้าหากทัพ “หมอผี” ชนะ 2 นัดเก็บ 6 คะแนนเต็ม พวกเขาก็จะเล่นได้สบายในนัดสุดท้ายที่พบกับ บราซิล แต่ถ้าผลงาน 2 นัดแรกออกมาน่าผิดหวัง บอกเลยว่า เวทย์มนต์หมอผีก็อาจจะช่วยพวกเขาไม่ได้
และถ้าสมมติว่า แคเมอรูน ได้ผ่านเข้าสู่รอบสอง ก็จะได้เจอกับทีมในกลุ่มเอช ซึ่งอาจเป็น โปรตุเกส, กานา, อุรุกวัย หรือเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเป้าหมายแรกที่ ริโกแบร์ ซง และลูกทีมต้องพุ่งชนก่อนเป็นอันดับแรก คือการผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปให้ได้ หลังจากนั้นจะเจอใครเป็นด่านต่อไปก็ค่อยมาดูกันอีกที
โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 ของทีมชาติแคเมอรูน
วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน เวลา 17:00 น.
สวิตเซอร์แลนด์ พบ แคเมอรูน : สนามอัล ยานูบ สเตเดี้ยม เมืองอัล วาคราห์
วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน เวลา 17:00 น.
แคเมอรูน พบ เซอร์เบีย : สนามอัล ยานูบ สเตเดี้ยม เมืองอัล วาคราห์
วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม เวลา 02:00 น. (คืนวันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม)
แคเมอรูน พบ บราซิล : สนามลูซาอิล ไอคอนิค สเตเดี้ยม