ทำความรู้จักแอรอน แรมส์เดล กันสักหน่อย หลังอาร์เซนอลจ่ายค่าตัวราว 24 ล้านปอนด์เพื่อดึงมาร่วมทัพ และในวันที่ 21 สิงหาคม ปืนใหญ่อาร์เซนอล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษก็ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่าได้คว้าตัว ผู้รักษาประตูฝีมือดีทีมชาติชาวอังกฤษของ “ดาบคู่” เซฟฟิลด์ ยูไนเต็ดมาร่วมทัพเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมอาร์เซนอลนั้น ต้องการผู้รักษาประตูคนใหม่มาเป็นแบ็คอัพและเบียดแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงกับแบรนด์ เลโน จอมหนึบชาวเยอรมัน และพยายามเจรจากับ เซฟฟิลด์ ยูไนเต็ดมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับเรื่องการคว้าตัวของ แรมส์เดล วัย 23 ปีมาร่วมทีม และสุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็สามารถทำข้อตกลงกันได้สำเร็จ ซึ่งสื่อดังอย่าง แอธเลติก สื่อดังของอังกฤษระบุว่า อาร์เซนอล ตัดสินใจทุ่มเงิน 24 ล้านปอนด์ เพื่อปิดดีลแรมส์เดล และอาจจะต้องจ่ายเพิ่ม 6 ล้านปอนด์ ตามเงื่อนไขการลงสนาม เซ็นสัญญาร่วมงานกันเป็นเวลา 4 ปี หากแรมส์เดลนั้นได้ลงเล่นครบตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา ทั้งนี้แรมส์เดลนั้นจะได้สวมเสื้อหมายเลข 32 ลงเฝ้าเสาในถิ่นแอมิเรตส์ สเตเดี้ยมและคาดว่าน่าจะถูกใส่ชื่อในเกมพรีเมียร์ลีกด้วย นับตั้งแต่ที่เขามาเป็นผู้รักษาประตูให้อาร์เซนอลนั้น เขายังกล่าวว่า เขาตั้งเป้ายึดมือหนึ่งในทีมชาติชุด ลุยศึกบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายด้วย แรมส์เดลนั้นอยู่ในทีมสิงโตคำรามชุดรองแชมป์ยูโร 2020 หลังถูกเรียกเข้ามาแทน ดีน เฮนเตอร์สัน ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขายังไม่มีโอกาสลงสนามช่วยทีมแม้แต่เกมเดียว

ทั้งนี้แรมส์เดลยังกล่าวอีกว่า “ผมกับภรรยาอยู่ระหว่างพักร้อน จากนั้นผมก็มารู้ตัวเองติดทีมชาติ ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม มันเป็นช่วงเวลาที่สุดในชีวิตของผม ผมยังบอกเพื่อนร่วมทีมทุกคนให้มีช่วงพักร้อนที่ดี นั่นคือสปิริตในทีมของเรา เราห่างจากความสำเร็จไม่กี่ก้าว แต่มันก็ช่วงเพิ่มความกระหายให้เราทำงานผลงานให้ดีในฟุตบอลโลก หวังว่าผมจะติดทีมไปอีกครั้ง และหวังว่าผมจะลงได้เล่นเป็นตัวจริงด้วย” หากใครที่ติดตามแรมส์เดลอยู่ละก็ ก็คงทราบกันอยู่ว่า ในฤดูกาลนี้เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนยึดตำแหน่งมือหนึ่งจาก แบรน์เลโน ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่เกี่ยวกับชายคนนี้ที่ทำเขาผิดหวังมากๆ ซึ่งเขาได้เปิดใจว่าเรื่องที่ทำให้เขาผิดหวังในแมตช์ที่โชว์หนึบช่วยให้ต้นสังกัดคว่ำ สเปอร์สนั่นเอง เขายอมรับว่า เขาเสียดายที่ไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้แม้จะโชว์ฟอร์มสุดยอดช่วยทีมชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3 – 1 ในเกมลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ในศึกพรีเมียร์ลีกที่ผ่านมา ซึ่งเขาเผยว่า เขาเชื่อว่าสามารถเซฟลูกยิงของหัวหอกทีมชาติเกาใต้ได้แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ “ผมอยากเก็บคลีนชีต ผมรู้สึกผิดหวังกับตัวเองที่เสียประตู และบอกตามตรงถ้าผมโถมน้ำหนักตัวข้างหน้า ผมคิดว่าผมคงเซฟจังหวะนั้นได้ แต่นี่เป็นหนึ่งในวันที่สุดยอดมากๆ และหวังว่าทุกๆ ครั้งเราจะเล่นกันได้แบบนี้” แรมส์เดลกล่าวไว้

ซึ่งแรมส์เดลนั้นก็มีผลงานพอให้รู้จักกันไม่น้อยเขาเป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษที่เล่นเป็นผู้รักษาประตูของสโมสรแชมเปี้ยนชิพเซฟฟิลด์ยูไนเต็ด และถูกต่อยอดโดยทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี รางวัลส่วนตัวนั้นเขาเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของกองเชียร์เอเอฟซี บอร์นมัธในปี 2019 – 2020 และระหว่างอยู่ เซฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็ได้รางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี 2020 – 2021 จากนั้นก็เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของเซฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2020 – 2021 ซึ่งแรมส์เดลนั้นลงเล่นให้กับสโมสรทั้งหมด 19 นัดในลีกทู แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถช่วยป้องกันสโมสรไม่ให้ตกชั้นสู่ลีกแห่งชาติได้ แรมส์เดลนั้นได้บอกอีกว่า ในภาพจำที่เหมือนเป็นตราบาป กับการตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกตลอด 2 ฤดูกาลหลังสุด ผลงานส่วนของแรมส์เดล ถือว่าตรงข้ามกับผลงานของทีม นอกจากนี้เขายังเคยโดนวิจารณ์หนักๆด้วยว่า แฟนบอลไม่ต้องการเขา พวกเขาร้องตะโกนว่า ลูคิชเก่งกว่า ซีแมน และ นายจะไม่มีทางได้เล่นให้อาร์เซนอล ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แรมส์เดลก็สามารถเข้ามาร่วมทีพอาร์เซนอลได้อย่างสำเร็จและก็ต้องบอกเลยว่าหนุ่มคนนี้นั้นไม่ธรรมดา ต้องรอติดตามชมผลงานของแรมส์เดล ว่าจะสามารถเข้าชิงแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ได้หรือไม่