
เมื่อเอ่ยถึงฟุตบอลโลก แฟนฟุตบอลอย่างเราๆ ก็มักจะคิดถึงความตื่นเต้น และความยิ่งใหญ่ของการแข่งขันแต่จากประเด็นความอื้อฉาว ของการเลือกประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพปี 2022 ทำให้หลายๆ คนก็อดคิดไม่ได้ที่จะค้าคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะเป็นแง่มุมหนึ่งของฟุตบอลโลกและ FIFA ที่มักไม่ค่อยได้ยินนัก สำหรับงานนี้คงต้องบกว่าการได้มาซึ่งสิทธิ์นี้เป็นผลมาจากการเมือง ผลประโยชน์ การสมยอม และอีกมากมายที่ FIFA ได้เข้าไปเกี่ยวข้องต่อเนื่องให้ฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะมีขึ้นในอีกหนึ่งปีข้างหน้านี้ก็ยังไม่วายที่จะมีเรื่องประเด็นร้อนต้องเข้าไปแก้ไขอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนั่นก็เป็นผลมาจากการมอบสิทธิ์นี้ให้กับประเทศกาตาร์ทั้งสิ้น
กาตาร์เป็นประเทศเล็กๆ ในทวีปเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ มีประชากรประมาณ 2 ล้านกว่าคน ซึ่งกว่า 80% เป็นต่างชาติที่อาศัยอยู่ในกาตาร์ เคยเป็นประเทศที่ยากจนมากมาก่อน จนกระทั่งมีการพบแหล่งน้ำมันในช่วงทศวรรษที่ 40 ซึ่งมีการประมาณว่า กาตาร์เป็นเจ้าของแหล่งน้ำมันกว่า 15%ของทั้งหมดในโลกเลยทีเดียว อย่าที่เราทราบกันดีว่า มหกรรมกีฬาอย่างฟุตบอลโลกนั้น เป็นการลงทุนมหาศาลของประเทศเจ้าภาพ แม้กาตาร์จะเป็นประเทศที่ร่ำรวยมากด้านการค้าน้ำมัน แต่ประเทศที่จัดมหกรรมยิ่งใหญ่ขนาดนี้ นอกจากจะรวยแล้วควรมีทรัพยากรทางสังคมด้านอื่นๆ ที่ช่วยสร้างความน่าดึงดูให้กับการเดินทางมาชมการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว วัฒนธรรม หรือสถานที่ที่น่าสนใจต่างๆ ที่ควรมีหรือถูกเตรียมไว้รองรับ และมีแผนการต่อยอดจากการลงทุนในครั้งนี้อย่างชัดเจนอีกด้วย แต่สำหรับ กาตาร์ ประเทศเล็กๆ ที่ต้องหาคำตอบว่ามีการเตรียมการไว้อย่างไรบ้าง อันนี้เราคงจะได้ทราบกันอย่างแน่ชัดมากที่สุดก็เมื่อตอนใกล้ๆ วันแข่งขันแน่นอน ส่วนอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ การพิจารณาให้หลายๆ ประเทศเป็นเจ้าภาพร่วมกันน่าจะดีกว่านี้มาก เพราะเป็นโอกาสดีในการเผยแพร่ educate คนทั่วโลกให้รู้จักเรื่องวัฒนธรรม ความเจริญ ของภูมิภาคนี้ รวมถึงการกระจายความเจริญอันเป็นผลต่อเนื่องด้วยเช่นกัน แทนที่จะให้กาตาร์นั้นได้รับสิทธิ์การจัดไปเพียงคนเดียว ทำให้นึกถึงตัวอย่างชั้นดีที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วอย่างเจ้าภาพร่วมมือระหว่าง ญี่ปุ่นและเกาหลี นั่นเองซึ่งก็ทำออกมาได้ดีมากๆ

การจัดฟุตบอลในเขตร้อน ถึงแม้จะจัดในหน้าหนาวเหมาะสมแล้วหรือ? เป็นอีกประเด็นร้อนที่ไม่จบไม่สิ้นจริงๆ สำหรับคำถามนี้ ซึ่งฟีฟ่ามักถูกยิงคำถามนี้มาตลอดของการมีกาตาร์เป็นประเทศหนึ่งที่เสนอตัวเข้าแข่งขันเป็นเจ้าภาพ การหมุ่นเวียนกันจัดในทวีปเข้าใจได้ และเป็นเรื่องที่แฟร์เพราะเป็นการเปิดตลาดฟุตบอลในทวีปใหม่ๆ ซึ่งทีมในตะวันออกกลางก็มีการพัฒนาในเรื่องของกีฬาขึ้นเยอะมาก อิหร่าน ซาอุดิอาราเบีย ก็เข้ารอบสุดท้ายมาหลายครั้งและมีผลงานที่น่าสนใจพอตัว แต่น่าเสียดายที่ความไม่โปร่งใสในกระบวนการต่างๆ ยังทำให้โอกาสการจัดฟุตบอลโลกครั้งแรกในตะวันออกกลางเสียเรื่องความอัปยศไปด้วย สำหรับเรื่องคำวิจารณ์ที่จะจัดฟุตบอลในพื้นที่เขตร้อน นั้นฟีฟ่าก็ได้ออกมาเปลี่ยนแปลงตารางการแข่งขันให้ไปจัดช่วงปลายปีที่อากาศเย็นหน่อย เรื่องนี้ทำให้ถูกวิจารณ์อย่างมากเพราะตารางการแข่งขันของลีกต่างๆ กว่า 500 ลีก โดยเฉพาะในยุโรปที่ต้องเปลี่ยนแปลงให้เริ่มเร็วหน่อย จบช้าหน่อย ซึ่งผลกระทบต่อเนื่องยาว 2-3 ฤดูกาลเลยทีเดียว และพอเกี่ยวข้องกับเรื่องของบอลลีก ก็มักจะมีเรื่องของพาณิชย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการประมูลสิทธิ์การถ่ายทอดสด ที่ต้องปรับการยกใหญ่ วิธีแก้ปัญหาแบบ ฟีฟ่าก็คือการยกประโยชน์ให้สิทธิในการถ่ายทอดสดปี 2026 กับทั้งสองสถานีโดยไม่ต้องมีการประมูลเพื่อปิดปาก
ทั้งหมดทั้งมวล ถ้าดูกันแบบผิวเผินเหมือนว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่ การจัดฟุตบอลในประเทศตะวันออกกลาง ช่วงหน้าร้อนเหมาะสมหรือไม่ แต่ถ้าดูกันอย่างถ่องแท้แล้ว คิดว่าประเด็นอยู่ที่ความล้มเหลวของการบริหารงานของ ฟีฟ่ามากกว่า ซึ่งในการดำรงไว้ในความเชื่อถือ อันเป็นผลมาจากความโลภ ความเย่อหยิ่ง และความพยายามในการปัดกวาดข้อผิดพลาดอันเกิดมาจากมอบสิทธิ์เข้าไปใต้พรมอย่างไม่สนใจใยดีเลยทั้งสิ้น