แชมป์เก่ามาตามนัด ทีมชาติฝรั่งเศส คว้าตั๋วลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์เรียบร้อย แม้จะเหลือโปรแกรมเตะรอบคัดเลือกอีก 1 นัด หลังเปิดบ้านกระซวกโหด คาซัคสถาน 8-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา “ตราไก่” มาแล้ว เอ็มบัปเป้ ร้อนจัดกด 4 ตุงช่วย ทีมชาติฝรั่งเศสคว้าสิทธิ์เข้าไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ช่วงปลายปีหน้า อย่างเป็นทางการเรียบร้อย

หลังเปิดบ้านยำใหญ่ชาติฝรั่งเศส ไล่ถล่มเอาชนะ คาซัคสถาน ไปได้แบบขาดลอย 8-0 ในเกมรอบคัดเลือกโซนยุโรป กลุ่มดี นัด 7 เมื่อวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยได้ประตูจาก คีเลียน เอ็มบัปเป้ 4 ประตู ในนาทีที่ 6 12 32 และ 87 ,คาริม เบนเซมา 2 ประตู นาทีที่ 55 กับ 59 , อาเดรียง ราบิโอต์ นาทีที่ 75 และ อองตวน กรีซมันน์ (จุดโทษ นาทีที่ 84  ถึงแม้ว่าจะเหลือโปรแกรมลงเตะอีกแค่ 1 นัด ซึ่งจะต้องออกไปเยือน ฟินแลนด์ ในวันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน นี้ แต่ชาติฝรั่งเศสของกุนซือ ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ การันตีตำแหน่งแชมป์กลุ่มดี เรียบร้อย เพราะปัจจุบันมี 15 แต้ม จากการลงแข่ง 7 นัด ทิ้งห่าง ฟินแลนด์ ที่รั้งอันดับสอง 4 แต้ม สำหรับเกมที่ดุเดือดนี้ทำการแข่งขันที่สนาม ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ผ่านไปแค่ 6 นาที แฟนบอลตราไก่ถึงกับเฮลั่นสนามเมื่อ คาริม เบนเซม่า แทงมาให้ เตโอ แอร์น็องเดซ สอดขึ้นมาแล้วเปิดกลับให้ คีลียัน สังหารไม่พลาด 1-0  เท่านั้นยังไม่พอในนาทีที่ 12 สกอร์ขยับขึ้นมาเป็น 2-0 ฒูลส์ กุนเด้ สาดลากยาวมาให้กับ กิงส์เล่ย์ โกมัน เตะหนี โพคาตีลอฟ ที่หมายออกมาตัดบอลก่อนจะครอสมาถึง เอ็มบัปเป้อีกรอบ สังหารไม่เหลืออีกตุง สกอร์ไหลมาเรื่อยๆ เป็นทิ้งห่าง 3-0 ในนาทีที่ 32 หนนี้ โกมันคนเดิมที่หาโอกาสครอสมาให้ดาวเตะเปแอสเช ลอยตัวโขกเสียบตาข่ายเป็นแฮตทริกแรกในนามทีมชาติของหัวหอกรายนี้

หลังจากครึ่งหลังนาทีที่ 55 เลส์ เบลอส์ ได้เม็ดที่ 4 จากจังหวะ เตโอ แอร์กน็องเดซ สอดมาทางซ้ายก่อนปาดมาให้คาริม เบนเซม่ายิงเข้าไป วีเออาร์ ขอมีส่วนตรวจสอบแต่ยืนยันให้เป็นประตูภายหลัง ฝรั่งเศสยังคงเดินหนเต่อเนื่องก่อนมาได้เฮอีกรอบในนาทีที่ 59 หนนี้เป็นของคาริม เบนเซม่า แทงมาให้คีลิยัน หลุดเดี่ยวไปไม่ยิงตบคืนมาให้ เบนเซม่า ชาร์จเพิ่มอีก เป็น 5-0 เลส์ เบลอส์ นำห่าง 6-0 จากเตะมุมในนาทีที่ 75 และช่วงท้ายเกมนาทีที่ 85 มีจังหวะปัญหาเมื่อทาง วลาดิสลาฟ วาซิลีเยฟ ไปสอย อองตวน กรีซมันน์ในกรอบเขตโทษ วีเออาร์ทำหน้าที่อีกครั้งส่งสัญญาณลงมาให้ผู้ตัดสินก่อนจะให้จุดโทษเจ้าบ้าน โดย บัปเป้ ยกบอลให้ กรีซมันน์ สังหารไม่พลาดอีก 7-0 นาทีสุดท้าย สกอร์ไหลไปไกล 8-0 มุสซ่า ดิยาบี้ แทงมาให้เอ็มบับเป้อีกเช่นเคย เบียดกองกลังก่อนจะสับไกส่งบอลเสียบเสาไกล

จบเกม ฝรั่งเศส เปิดรังไล่ถล่ม คาซัคสถานไป 8-0 ส่งผลให้ ทีมชาติฝรั่งเศส คว้าตั๋วไปบอลโลกสำเร็จ แต่ที่น่าสนใจมากไปกว่าการเปิดบ้านถล่มคู่ต่อสู้แบบไร้ทางสู้แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจกว่าคือ ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของดาวเตะ จากสโมสร ปารีสปารีส แซงต์ แชร์กแมง เอ็มบัปเป้ ที่สามารถทแฮตทริกแรกในการเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศสได้ และถือเป็นแข้ง “ตราไก่” คนแรกนับตั้งแต่ ฌุสต์ ฟองแต็ง ในปี 1958 ที่ทำ 4 ประตูในเกมเดียว นอกจากนี้ เบนเซม่า ทำประตูให้ทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว 35 ลูก แซงหน้า ดาวิด เทรเซเก้ต์ 34 ลูก ขึ้นมารั้งอันดับ 5 ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล ของตราไก่เรียบร้อย โดยตอนนี้เป็นรองแค่ เธียร์รี่ อองรี 51 ลูก, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ 46 ลูก, มิเชล พลาตินี่ 41 ลูก และ กรีซมันน์ 41 ลูกเท่านั้น

สำหรับผลอีกคู่อื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน มีดังนี้

กลุ่มดี บอสเนีย แพ้ ฟินแลนด์ 1-2 ทำให้สถานการณ์ของกลุ่มนี้ ฝรั่งเศสมีเพิ่มเป็น 15 คะแนนจาก 7 นัด นำเป็นจ่าฝูง ส่วนฟินแลนด์ อยู่อันดับที่ 2 มี 11 แต้ม และยูเครน รั้งที่ 3 มี 9 คะแนน ส่วนกลุ่มอี เวลส์ ชนะ เบลารุส 5-1 โดยสถานการณ์กลุ่มนี้ เบลเยียม นำเป็นจ่าฝูงมี 19 คะแนนจาก 7 นัด การันตีแชมป์กลุ่มและคว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายปลายปีหน้าแน่นอนแล้ว ส่วน เวลส์ ซึ่งมี 14 คะแนน และสาธารณรัฐเช็ก ที่มี 11 แต้ม ต้องไปลุ้นแย่งอันดับ 2 ในเกมสุดท้าย ส่วนผลอีกคู่ เบลเยียมเปิดบ้านเชือด เอสโตเนีย 3-1 กลุ่มจี นอร์เวย์ เสมอ ลัตเวีย 0-0 โดยนอร์เวย์ มี 18 แต้ม ยังมีลุ้นเข้ารอบ 3 ทีม, ตุรกี ชนะ ยิบรอลตาร์ 6-0 นำเป็นจ่าฝูงมี 20 คะแนน และ มอนเตเนโกร เสมอ เนเธอร์แลนด์ 2-2