เดอ เทเลกราฟ สื่อของฮอลแลนด์ ระบุว่า โรนัลด์ คูมัน เตรียมที่จะได้เข้ามาคุมทีม ฮอลแลนด์ ต่อจาก หลุยส์ ฟาน กัล ในช่วงต้นปีหน้าหลังจบ ฟุตบอลโลก2022 โดยมันจะถือเป็นการคุม อัศวินสีส้ม สมัยที่ 2 ของเขาด้วย ล่าสุดทาง สมาคมฟุตบอลฮอลแลนด์ (เคเอ็นวีบี) จะแต่งตั้ง โรนัลด์ คูมัน เข้ามาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ของทีมแทน หลุยส์ ฟาน กัล หลังจบศึกฟุตบอลโลก2022 ในช่วงปลายปีนี้ตามการเปิดเผยของ เดอ เทรเลกราฟ สื่อชื่อดังของแดนกังหันลม 

ฟาน กัล เพิ่งกลับมารับงานคุม ฮอลแลนด์เป็นรอบที่ 3 เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาหลังจาก แฟร้งค์ เดอ บัวร์ บอกลาทีม ไปตอนจบศึกยูโร 2020 อย่างไรก็ตามสัญญาของพวกเขากับเคเอ็นวีบีก็มีผลงานจนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้เท่านั้น และเมื่อไม่นานมานี้ ฟานกัล เปิดเผยว่าตนเองนั้นกำลังป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ซั่งนั้นทำให้เขาจะไม่ได้อยู่คุมทีมหลังจบศึกฟุตบอลโลก2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพ ทำให้เคเอ็นวีบี จำเป็นต้องมองหาคนที่จะเข้ามาคุมทีมแทนเขาเอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่สุดท้ายจะเลือก คูมัน ให้มารับทำหน้าที่นั้นโดยเขาจะเริ่มงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม ปี 2566 ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วที่ คูมันจะหวนกลับมาคุมทีมชาติอีกครั้ง หลังหลุยส์ ฟานกัส ขอวางมือหลังจบฟุตบอลโลก สมาคมฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ ประกาศยืนยันแต่งตั้ง โรนัลด์ คูมัน เข้ามาเป็นเทรนเนอร์ทีมชาติคนใหม่ตั้งแต่ปี 2023 อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันพุธที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา โดยตกลงเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 3 ปี ด้วยกัน

หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือทีมชาติเนเธอร์แลนด์คนปัจจุบัน ได้แจ้งบอร์ดบริหารของ KNVB ไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาแล้วว่า ตัวเองจะขอก้าวลงจากตำแหน่งหลังจากจบศึกฟีฟ่า เวิลด์คัพ 2022 ในช่วงปลายปีที่จะถึงนี้  ผู้จัดการทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เผยว่า “หลังจากผมตรวจเจอโรคร้ายนี้เมื่อปี 2020 ผมก็ได้เข้ารับการรักษาด้วยการฉายรังสีมาแล้ว 25 ครั้ง แต่ก็ยังรักษาไม่หายและต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ต่อไป ผมคิดว่าคนที่เห็นแก้มแดงก่ำของผม มักจะคิดว่าผมสุขภาพดี แต่มันไม่ใช่เลย เพราะผมอยู่กับโรคนี้มานานจนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว ก่อนหน้านี้ผมเลือกที่จะไม่บอกอาการป่วยของผมให้แก่ลูกทีม เพราะอยากให้ทุกคนมีสมาธิกับฟุตบอล ถ้าบอกไปมันอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจของพวกเขา ดังนั้น ผมจึงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่ควรจะรู้ อีกอย่างมะเร็งต่อมลูกหมากถึงจะได้ชื่อว่าเป็นโรคร้ายแรง คร่าชีวิตคนมานับไม่ถ้วน แต่ผมเชื่อว่าตัวเองไม่ใช่ 1 ใน 90 เปอร์เซ็นต์ อย่างแน่นอน ผมจะทำให้เห็นว่าเรื่องร้ายๆ ที่มันเกิดขึ้นกับผมเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยธรรมดา ผมต้องเข้มแข็งเพราะผมคือคนนำทัพถ้าผมอ่อนแอลูกทีมจะเกิดความกังวลและไม่มั่นใจ จึงไม่แปลกว่าทำไมผลจึงเลือกที่จะเปิดเผยให้ลูกทีมรู้”

อย่างไรก็ตามศึกฟุตบอลโลกในครั้งนี้ที่กำลังจะมาถึงหลุยส์ ฟานกัลป์ กุนซือทีมชาติเนเธอร์แลนด์ พร้อมที่จะท้าชนกับทุกสนามแข่งเพื่อเป้าหมาย เพื่อชัยชนะที่เขาตั้งใจไว้ และเชื่อว่านี่ คือการใช้ชีวิตประจำวันที่ปกติมาก โรคร้ายนี้มันแค่ส่วนหนึ่งของเขามันไม่ใช่อุปสรรคในการนำทีมไปสู่จุดหมาย และถึงแม้จะเป็นงานแรกในรอบ 5 ปีของเขา ก็ไม่มีอะไรต้านพลังในการรักกีฬาฟุตบอลไปจากเขาได้เลย ถึงจะเป็นข่าวช็อควงการลูกหนัง กุนซือหลายทีมหรือแม้แต่คนในวงการนี้จะมองเขาในแง่ลบถึงเรื่องโรคร้ายนี้ เขาก็ไม่หวั่นกับคำเหล่านั้นที่พูดถึงเรื่องโรคร้ายที่กลายเป็นเรื่องธรรมดาหนึ่งในชีวิตของเขาไปแล้ว และด้วยสปรีริตอันแรงกล้าในจะพาทีมไปสู่เป้าหมายอันสูงสุดทำให้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์แข็งแกร่งมากขึ้นอีกด้วย ฟานกลังที่เพิ่งเปิดเผยว่าตนเองกำลังป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากนั้น กลับมารับงานคุมทัพ อัศวินสีสม รอบ 3 เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมาหลังจาก แฟร้งค์ เดอ บัวร์ อำลาทีมหลังจบศึกยูโร 2020 

สำหรับ คูมัน ได้กลับมาคุมบังเหียนเนเธอร์แลนด์ รอบสอง หลังเคยรับหน้าที่ระหว่างปี 2018-2020 และพาทีมเป็นรองแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ก่อนที่จะไปรับงานกับบาร์เซโลน่า โดยปัจจุบันว่างงานอยู่หลังโดน อาซูลกราน่า ปลดออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมานั้นเอง โดย คูมันก็ได้เผยถึงการหวนกลับมาคุมทัพดัตซ์ อีกรอบว่า “ผมรอคอยการทำงานร่วมกันครั้งใหม่ หนึ่งปีครึ่งที่แล้ว ผมไมได้ทิ้งทีมชาติเนเธอร์แลนด์เพราะความไม่พอใจอย่างแน่นอน ผมรู้สึกดี ผลงานดี และการเข้ากับทีมชาติก็ดี เราจะดำเนินต่อไปบนเส้นทางนั้น นั่นเป็นสิ่งที่แน่นอนสำหรับผม”