
หลังจบ ฟุตบอลโลก2022 แม้สนามจะเปิดได้แค่ไม่ถึง 2 ปี และราคาแพงเกือบ 2 แสนล้าน แต่ โซ-ไฟ สเตเดียม ยังดีไม่พอจะจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า แน่นอนว่าข่าวในการปรับปรุงสนามครั้งนี้รู้กันดีในวงการฟุตบอลโลกและแฟนลูกหนังทั่วโลก หลายคนมองว่าปัจจุบันสนามแห่งนี้ก็ใหญ่พอที่จะรองรับแฟนลูกหนังได้หมด แต่อย่างที่บอกว่าวงการฟุตบอลยิ่งมีการแข่งขัน ยิ่งได้รับความสนใจในการเดิมพัน การชมอย่างมาก เพราะด้วยทีมดังในการค้าแข้งมากมายเข้าชนกันในสนามการแข่งขัน แฟนลูกหนังได้สนุก ลุ้นทีมโปรดในดวงใจอย่างใกล้ชิดในสนามแห่งนี้ ทำให้ฟีฟ่าคาดว่าในอนาคต แฟนลูกหนังจะเยอะจนล้นสนามโซ-ไฟ สเตเดียม ฉะนั้นแล้ว จึงมองเห็นว่าควรจะขยายสนามส่วนหนึ่งเพื่อรองลับแฟนลูกหนังจากทั่วโลกจำนวนมาก อีกส่วนนั้นสนามแห่งนี้จะได้เป็นสนามที่ดีและใหญ่ที่สุดเหมาะแก่การจัดการแข่งขัน ฟุตบอลโลกในครั้งต่อไป

สนาม โซ-ไฟ สเตเดียม เพิ่มจะเปิดใช้งานมาตั้งแต่ช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสนามที่แพงที่สุดในโลกมากถึง 3.8 พันล้านปอนด์ หรือราวๆ 1.75 แสนล้านบาท แต่กลับถูกฟีฟ่าชี้แนะว่าให้ปรับปรุงสนามให้ใหญ่ขึ้นเนื่องจากสนามเล็กเกินไปกว่าที่จัดการแข่งขันฟุตบอล อย่างที่บอกว่าฟีฟ่ามองว่าสนามฟุตบอลที่แพงที่สุดแห่งนี้ ยังไม่ดีพอที่จะจัดการแข่งขัน ซึ่งอาจจะเล็งเห็นว่าอนาคตอีก4ปีข้างหน้า สนามนี้จะต้องเป็นประวัติศาสตร์ว่า นี่คือสนามฟุตบอลที่ดีและยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในโลก แน่นอนว่าหลายๆฝ่ายอยากที่จะให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ทำได้แค่ลุ้นและรอดูเท่านั้น ว่าความคาดหวังที่ฟีฟ่าอยากจะให้เป็นนั้นจะเป็นอย่างไร การสั่งปรับปรุงสนามครั้งนี้จึงเกิดขึ้น จากความเห็นจากประเทศมหาอำนาจ ยักษ์ใหญ่จึงเกิดขึ้น และคาดว่าสนามฟุตบอลแห่งนี้จะอลังการเหมือนงบประมาณมหาศาลที่ตั้งจัดเตรียมไว้ปรับปรุงสนามการแข่งขันแห่งนี้ แฟนลุกหนังทั่วโลกหวังกับการจัดเตรียมสนามครั้งใหม่อย่างมาก และการจัดสนามโซ-ไฟ สเตเดียม ในอีก4ปีจะอลังการจนสามารถเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันในครั้งถัดไปจากฟุตบอลโลกปีนี้หรือไม่ ลุ้นความอลังการ เท่านั้นที่ทำได้ และเชื่อได้เลยว่าข่าวการปรับปรุงสนามครั้งนี้ จะไม่มีแฟนลูกหนังคนไหนลืมแน่นอนว่าสนามแห่งนี้จะไปในทิศทางใด และสนามนี้จะเป็นเจ้าภาพได้จริงดังฟีฟ่าไว้หรือไม่ แฟนลูกหนังต้องรอชมเองเท่านั้น

ฟุตบอลโลก 2026 จัดขึ้นโดยมีเจ้าภาพทั้งหมด 3 ชาติทั้ง แคนาดา, เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา ซึ่ง สหรัฐฯ มีสนามที่ได้สิทธิ์จัดการแข่งขันมากถึง 11 แห่ง ซึ่ง ลอสแอนเจลิส มีเพียงแค่ โรส โบว์ เท่านั้นที่ยังได้สิทธิ์จัดการแข่งขัน ซึ่งหากว่า โซ-ไฟ สเตเดียม สามารถปรับปรุงได้ตามมาตรฐานของฟีฟ่า ก็มีลุ้นที่จะได้เป็นสนามที่ 12 ที่จะจัดการแข่งขันในอีก 4 ปีข้างหน้า ไม่เพียงเท่านั้น แต่สนามแห่งนี้ยังถูกจับตามองว่าอนาคตสนามแห่งนี้จะอลังการตามงบประมาณที่ตั้งไว้หรือไม่ ไม่มีใครจะคาดเดาได้เลยว่าสเตเดียมแห่งนี้จะเป็นอย่างไร จะรองรับแฟนลูกหนังเพิ่มได้เท่าไหร่ จะก้าวเข้าสู่เจ้าภาพในการจัดการแข่งขันฟุตบอลหรือไม่ แน่นอนเสียงของความเห็นหลายๆฝ่ายก็ต้องต่างวิเคราะห์ เดาว่ามันจะออกมารูปแบบใดกันแน่แน่