เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 กาตาร์ ออกกฎเข้ม ห้ามนักเตะไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด 19 มาร่วมฟาดแข้งฟุตบอลโลก 2022
สื่อดังอังกฤษ รายงานว่า กาตาร์ เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย เตรียมออกกฎ ระเบียบสำคัญ สำหรับผู้เล่นทุกคนที่จะมาร่วมแข่งขัน โดยบังคับว่าต้องผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด – 19 ครบ 2 เข็ม จึงจะสามารถเข้าร่วมฟุตบอลโลก ครั้งนี้ได้ แม้ว่ามาตรการนี้ อาจจะทำให้นักเตะบางราย เลือกไม่เข้าร่วมแข่งขัน อย่างไรก็ตาม กาตาร์ก็อาจจะมีแนวทางอื่นรองรับ สำหรับผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน คืออาจจะต้องตรวจหาเชื้อไวรัสทุก 3 วันแทน ซึ่งจุดยืนดังกล่าวของเจ้าภาพอาจเป็นปัจจัยที่สำคัญ กระตุ้นให้เหล่านักเตะจากทั้ง 6 ทวีปที่จะมาร่วมการแข่งขัน ตัดสินใจเข้ารับวัคซีนโควิด – 19 ง่ายขึ้น
สาเหตุที่กาตาร์เตรียมใช้กฎที่เข้มงวดนี้ เพราะกาตาร์เป็นหนึ่งประเทศที่มีการฉีดวัคซีนไปแล้วมากที่สุด ประมาณ 82% ของประชากร เตรียมหารือด้านนโยบายกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม
ก่อนหน้านี้มีผู้เล่นบางคน เช่น กรานิต ซากา มิดฟิลด์กัปตันทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ของ อาร์เซนอล ที่ยอมรับว่าเขาปฏิเสธการเข้ารับวัคซีนโควิด – 19 ก่อนที่เขาจะติดเชื้อภายหลัง รวมถึง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่าลูกทีมยังไม่ได้รับวัคซีน 2 เข็มไม่ครบทุกคน ซึ่งก็มี ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักประตูมือ 2 ที่ต้องหายไปจากทีมระยะหนึ่งจากการติดเชื้อดังกล่าว
กาตาร์ อาจจะมีการทดลองมาตรการต่างๆ เพื่อทดสอบความพร้อมก่อนการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 ปีหน้า ในรายการอาหรับ คัพ ซึ่งจะเริ่มเริ่มแข่งขันวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ โดยมีมาตรการที่สำคัญ เช่นแฟนบอลที่จะเข้ามาเชียร์ในสนามต้องผ่านการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม แต่มาตรการนี้จะยังไม่บังคับใช้กับนักฟุตบอลที่เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์
ทั้งนี้องค์กรอนามัยโลก (WHO) และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ประกาศความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงวัคซีนต้านโรคโควิด – 19 การรักษาและการวิจัยโรคอย่างเท่าเทียม ก่อนจะเริ่มการแข่งขันฟุตบอลโลกทาง FIFA และ WHO ได้เปิดตัวโครงสร้างความตระหนักรู้ของประชาชน โดยมีนักฟุตบอลชื่อดังออกมากระตุ้นเตือนการสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างทางสังคม และทำความสะอาดมือเป็นประจำ
ด้านจานนี่ อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) กล่าวระหว่างการประชุมออนไลน์ว่า เราเรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศ ร่วมกันดำเนินการ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนสามารถเข้าถึงวัคซีน การรักษา และการวินิจฉัยโรคอย่างเท่าเทียมกันทั่วโลก