แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติ อังกฤษ ปฏิเสธที่จะกล่าวโทษลูกทีมแม้หลายรายจะคายพิษสงไม่ออกในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกนัดเสมอกับฮังการี 1-1 เมื่อวันอังคารที่ 12 ต.ค.

สิงโตคำราม เก็บได้แค่แต้มเดียวที่เวมบลีย์และยังต้องพยายามตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายที่กาตาร์ต่อไปหลังเสียประตูให้ทีมเยือนก่อนที่ลุค ชอว์ ทำฟาวล์จนเสียลูกโทษแต่มาได้จอห์น สโตนส์ ซัดตีเสมอในช่วงกลางครึ่งแรก

“เราต้องกลับไปวิเคราะห์เกมกัน เราไม่ควรตัดสินสิ่งต่างๆจากเกมเดียวในแง่ของการโชว์ฟอร์ม” เซาธ์เกต เอ่ยกับสื่อหลังถูกถามถึงฟอร์มของเมสัน เมาท์ กับ ฟิล โฟเด้น

“โดยรวมแล้ว เราไม่เฉียบขาดมากพอในเกม เราทำบอลเสียและเราเสียกระบวน”

“เราเล่นได้ตำกว่ามาตรฐานในเกมนี้ แต่เราต้องชูมือยอมรับ”

ต่อเกมกับฮังการี กุนซือทีมเมืองผู้ดีเลือกส่ง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ แฮร์รี่ เคน ลงเล่นเป็นตัวจริงแม้ทั้งคู่จะมีผลงานไม่สู้ดีกับต้นสังกัด แต่เซาธ์เกต ยังเลือกปกป้องสองสตาร์เช่นเดียวกับ เมาท์ และโฟเด้น

“ผมไม่คิดว่าเราควรมองไปที่ใครเป็นรายบุคคล ผมคิดว่าเราโชว์ฟอร์มกันไม่ได้อย่างที่ต้องการ”

“เมื่อคุณประสบกับสถานการณ์แบบนี้มันย่อมเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนเช่นกัน”

ทั้งนี้หลังจบเกมนี้ Optajoe เปิดเผยเกร็ดน่ารู้หลังเกม โดยทาง ทีมชาติอังกฤษ เพิ่มสถิติไม่แพ้ทีมชาติฮังการี เป็น 15 นัดติดต่อกันในทุกรายการแบ่งออกเป็น ชนะ 12 เสมอ 3 นัด ซึ่งความพ่ายแพ้ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นต้องย้อนกลับไปฟุตบอลโลก 1962 ภายใต้การนำทีม วอสเตอร์ วินเทอร์บอตทอม ที่ตอนนั้นแพ้ไป 1-2

นอกจากนี้ในเกมดังกล่าว ยังใช้เวลาเพียงแค่ 7 นาทีเท่านั้น หลังโดนทีมชาติฮังการีขึ้นนำไปก่อนซึ่งเทียบเท่ากับในเดือน สิงหาคมปี 2010 ที่ตอนนั้นตามหลังนาทีที่ 62 ก่อนที่จะตามตีเสมอในนาทีที่ 69