
ผลกระทบของ ฟุตบอลโลก ต่อภาวะโลกร้อน และแน่นอนว่าภาวะโลกร้อนยังคงเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดที่มนุษย์ชาติเคยพานพบ แต่สำหรับวงการฟุตบอลได้ลงมือลงแรงเพียงพอแล้วหรือยังที่จะต่อสู้กับมัน ล่าสุดผลวิจัยโดยบริษัทพลังงาน Selectra ระบุว่ากีฬา ฟุตบอลโลก มีส่วนทำให้เกิดการปล่อยมูลพิษไปทั่วโลกระหว่างประมาณ 0.3% ถึง 0.4% และแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวอาจดูเล็กน้อย แต่นั่นคือการเทียบเท่ากับปริมาณคาร์บอนที่ถูกปล่อยออกมาจากประเทศหลายๆ ประเทศ
นอกจากนี้การเพิ่มจำนวนเกมและทัวร์นาเม้นท์ใหม่ๆ ก็ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น การเปิดตัว ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก ในฤดูกาลนี้จะทำให้จำนวนการแข่งขันในกลุ่ม ยูฟ่า เพิ่มขึ้นเป็น 288 เกมหรือคือการเพิ่มมาอีก 20% ต่อปี แม้ว่ารอบแบ่งกลุ่ม ยูโรปาลีก จะลดลงมาจาก 48 ทีมเหลือ 32 ทีมแล้วก็ตาม การขยายตัวของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งจะมีผลในฤดูกาล 2024/25 นั่นหมายถึงการมีเกมในรอบแบ่งกลุ่มเพิ่มขึ้นมาเกือบเท่าตัว (180 จากเดิม 96) การตัดสินใจของยูฟ่า ระบุเพียงว่าต้องการที่จะให้จำนวนทีมเอามามีส่วนร่วมกับการแข่งขันอันลือชื่อนี้มากขึ้น โดยไม่ได้พูดถึงผลกระทบของมันแต่อย่างใดเลย เกมที่มากขึ้นเท่ากับการเดินทางที่มากขึ้น เดิมที 96 เกมในรอบแบ่งกลุ่มมีเพียง 6 เกมเท่านั้น ที่เป็นการแข่งขันระหว่างทีมที่อยู่ห่างกันไม่เกิน 500 กิโลเมตร การบินมีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการบินมีสัดส่วนประมาณ 5% ของการปล่อยมลพิษที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน

ในขณะเดียวกันฟุตบอลโลกยังคงดึงดูสปอนเซอร์จากอุสาหกรรมที่ก่อมลพิษสูงอีกด้วย รายงานจาก The Rapid Transition Alliance ที่ตีพิมพ์เมื่อต้นปีพบว่ามี 250 บริษัทที่ใช้เชื้อเพลงฟอสซิลมีมลพิษสูงเข้ามาสนับสนุนให้การแข่งขันหรือทีมกีฬา โดย 57 บริษัทเข้าไปแล้วเลือกที่จะสนับสนุนกีฬาลูกหนังทั้งทางตรงและทางอ้อมของกีฬาฟุตบอลโลก ทั้งนี้ทีมฟุตบอลระดับแนวหน้าจะต้องทำการเปลี่ยนชุดแข่งใหม่ถึง 3 ชุด ในการแข่งขันแต่ละปีควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่สนับสนุนอีกนับไม่ถ้วน ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เริ่มส่งผลกระทบต่อฟุตบอลแล้ว ตามข้อมูลอ้างอิงของนักวิชาการ เดวิด โกลแบลต์ ในหัวข้อ การเล่นกับเวลา กีฬาระดับโลก ระบุว่าสโมสรฟุตบอลจำนวนหนึ่งได้รับผลกระทบบางส่วนจากน้ำท่วมที่อาจมาถึงภายในปี 2050 ซึ่งรวมถึงสโมสรในพรีเมียร์ลีก ขณะที่ในฝรั่งเศส สนามกีฬา มัตมุทแอตแลนด์ติก ก็อาจโดนน้ำท่วมด้วย ด้วยผู้คนกว่า 3 พันล้านคนที่ดูฟุตบอลโลก 2018 ในรัสเซีย

และฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังจะมีขึ้นในอีก 1 ปีข้างหน้าที่ประเทศกาตาร์ และยอดการจองตั๋วเข้ารับชมฟุตบอลโลกในครั้งนี้ มันแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่พวกเขาอาจจะทำได้หากเริ่มเคลื่อนไหวอย่างจริงจังเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนที่กำลังอุบัติขึ้นหากไม่ป้องกัน ขณะที่วิกฤตการณ์ของไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้ เหมือนกับกิจกรรมทางสังคมอื่นๆ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า วิกฤติการณ์ครั้งนี้มันเป็นเพียงแค่ การซ้อม เท่านั้น แต่สำหรับผลระยะยาวที่วงการกีฬาต้องเผชิญเมื่ออุณหภูมิโลกนั้นร้อนเกินไป ปรากกฎการณ์ทางสภาพอากาศที่รุนแรง ตังหากคือ ของจริง ที่โลกต้องรับมือต่อไป