
“แซมบ้า”ของกุนซือ ตีเต้ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเรียบร้อยแล้ว โดยเกมนี้ยังเน้นเต็มสูบวาง ทว่า ไร้ เนย์มาร์ ที่บาดเจ็บต้นขา ส่วนทาง “ฟ้าขาว” อาร์เจนฯ นายใหญ่ ลิโอเนล สกาโลนี่ พาทีมโชว์ฟอร์มโหด แถมได้ ลิโอเนล เมสซี่ ฟิตเต็มถังมาร่วม แต่งานนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามคาด เรียกได้ว่า ทั้ง อาร์เจนฯ และบราซิล ใบเหลืองว่อนเต็มสนาม 7 ใบ! กับเกมเมื่อวันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สองคู่กัดแดนละตินเจ๊าไร้สกอร์ แต่รูปเกมไม่จืดชืดใส่กันแบบเต็มเหนี่ยวเล่นกันแบบเต็มที่ ก่อนจะแบ่งแต้มกันไปใน ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซน อเมริกาใต้
ณ สนาม ซาน ฮวน เดล บิเซนเตนาริโอ ทัพ “ฟ้าขาว” ของนายใหญ่ ลิโอเนล สกาโลนี่ ฟอร์มรายการนี้สุดแกร่งยังไม่แพ้ใคร ล่าสุดลงสนามบุกเชือด อุรุกวัย 1-0 ปัจจุบันรั้งอันดับที่ 2 ของตารางเก็บไปแล้ว 28 คะแนน โดยหากคว้าชัยในเกมนี้และเกมที่เหลือเพียงแค่เกมเดียว ก็จะเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกทันที ทางด้าน ขุนพล “แซมบ้า” ที่คุมทัพโดย ตีเต้ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก เรียบร้อยแล้ว ด้วยผลงาน ชนะ 11 เสมอ 1 ลงสนามล่าสุดเปิดรังเฉือน โคลอมเบีย 1-0 ปัจจุบันเป็นจ่าฝูงของตารางเก็บไปแล้ว 34 แต้ม โดยครึ่งแรกผ่าน 15 นาที รูปเกมสนุกสูสี แต่โอกาสยิงนั้นมีน้อยโดยเป็น “แซมบ้า” ได้เสียวก่อนจากบอลสวนกลับ
เฟร็ด พาแหวกขึ้นมาจากครึ่งสนามรอจังหวะป้ายออกซ้ายให้ วินิซิอุส จูเนียร์ แตะบอลเข้าเขตโทษแต่น้ำหนักไม่ดีตามไปเล่นไม่ทัน และอีก 2 นาทีต่อมา บราซิล พลาดโอกาสทอง ลูกัส ปาเกต้า สอดมาเก็บบอลก่อนแทงเร็วให้ วินิซอส จูเนียร์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลกับ เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ แต่จังหวะยิงไม่ดียกปลิ้นหลังเท้าหลุดออกหลังอย่างเหลือเชื่อ ต่อมาในนาทีที่ 40 อาร์เจน หวิดทะยานออกนำ มาร์กอส อากูนญ่า ขยับขึ้นมารับบอลทางซ้ายก่อนตบย้อนให้ โรดรีโก้ เด ปอล ปั่น ด้วยขวาหน้ากรอบ 18 หลากระดอนพื้นติดเซฟ อลีสซง เบ็คเกอร์นิดเดียว ท้ายครึ่งแรก ลูก้า ปาเกต้า และ เออันโดร ปาเรเดส มีปากเสียงกันจนผู้ตัดสินมอบใบเหลืองให้แก่ทั้งคู่ และหมดครึ่งเวลาแรกด้วย 0-0 นาที 53

คริสเตียน โรเมโร่ แนวรับ ฟ้าขาว มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ลิโอเนล สกาโลนี่ จึงส่ง แชร์กแม็ง เปซเซญ่า ลงเล่นแทน เกมครบหนึ่งชั่วโมงพอดิบพอดี เฟร็ด เกือบมีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ด เมื่อเจ้าตัวเก็บตกบอลแถวสองตรงเส้นเขตโทษ ก่อนจะจัดการดีดด้วยขวา บอลลอยข้ามมือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ไปแล้ว ทว่า ตกคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นในนาทีที่ 65 วินิซิอุส จูเนียร์ งัดลีลาสุดสะเด่ายกบอลไขว้ข้ามหัว นาอวล โมลีน่า ก่อนจะจ่ายมาหน้าประตูให้ ลูกัส ปาเกต้า ได้ยิง แต่บอลแป้กโดนไม่เต็มใบ ถัดมานาที 72 มาเธอุส กุนญ่า ได้บอลในกรอบเขตโทษแล้วโยกหลอกแนวรับเจ้าถิ่นเข้าเท้าขวาแล้วสับไก แต่บอลก็ยังไปตรงตัวของเอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ที่รับเข้าซองไว้ได้ เกมเดือดต่อเนื่อง นาที 76 แอนโธนี่ ตัวสำรอง แซมบ้า โดนมาร์กอส อคุนญ่า เข้าแรงใส่ด้านหลัง ก่อนจะปรี่ไปกระแทกหน้หน้าอกคู่กรณี จากนั้นผู้ตัดสินตัดสินใจควักใบเหลืองให้แก่ทั้งสองคน เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาที 90 ลิโอเนล เมสซี่ ลากบอลมาถึงกรอบเขตโทษ แล้วบรรจงยิงด้วยซ้ายข้างถนัด บอลพุ่งไปเข้ามือของ อลีสซง รับกระฉอก ก่อนที่นายด่าน บราซิล จะตามเก็บจังหวะสองไว้ได้ทัน
หมดเวลาการแข่งขัน อาร์เจนติน่า เปิดบ้านเสมอกับ บราซิล 0-0 ทำให้ “ฟ้าขาว” เก็บเพิ่มเป็น 29 แต้ม จาก 13 เกม ส่วน “แซมบ้า” ขยับไปมี 35 คะแนน จาก 13 นัด โดยอาร์เจนติน่า การันตีเป็นที่ 2 ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของโซนอเมริกาใต้ทันที ตีตั๋วไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์แน่นอน เพราะเกมต่อไป โคลอมเบีย อันดับ 4 ต้องไปตัดแต้มกับ เปรู อันดับ 5 รวมถึงผลอีกคู่ ชิลี อันดับ 6 แพ้คาบ้านต่อ เอกวาดอร์ ทำให้พวกเขาผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์ในปีหน้าแน่นอนต่อจาก บราซิล